fbpx
12ก.ย.

            แน่นอนไม่ว่างานเสริม ธุรกิจเสริม รวมไปถึงฟรีแลนซ์ ต้องเจอปัญหาการตัดราคา หรือสงครามการแข่งขันราคา ซึ่งบอกเลยว่าทุกธุรกิจหนีไม่พ้น แล้วจะแก้ปัญหาหรือจะหาวิธีการต่อสู้ให้เราสามารถชนะการแข่งขันของสงครามราคาได้อย่างไร❓

            ก่อนอื่น เราควรทำความเข้าใจก่อนว่าสงครามการแข่งขันราคาเกิดขึ้นได้อย่างไร ธุรกิจประเภทไหนบ้าง ธุรกิจที่พบบ่อยในสงครามราคาคือ ธุรกิจที่มีโมเดลธุรกิจทำซ้ำง่าย เช่น ขายอาหาร ขายผัก ขายทุกอย่าง 20 หรือถ้าเป็นงานฟรีแลนซ์รับจ้างทำเว็บ รับจ้างทำการตลาด เรียกว่าหั่นราคาสุดๆ จากหลักหมื่นเหลือหลักพัน จากหลักพันเหลือหลักร้อย หรืออีกแบบหนึ่ง คือให้ปริมาณเยอะ แต่ ไม่ลดราคา ก็ไม่ต่างอะไรจากสงครามราคาเช่นเดียวกัน แล้วแบบนี้เราจะทำอย่างไรดี

            1.หาจุดแข็งของบริการหรือสินค้า จุดแข็งนั้นคืออะไร คุณภาพของสินค้า รสชาติอาหารที่มีเอกลักษณ์ เป็นของตัวเอง หรือ บริการที่พิเศษกว่า แล้วคุณก็นำจุดแข็งเหล่านั้นมาสร้างแบรนด์ให้กับคุณใหม่

            2.สร้างแบรนด์ เพื่อสร้างการจดจำให้กับลูกค้าของคุณ การสร้างความจดจำ การบริการที่พิเศษกว่าคู่แข่ง ต้องพิเศษกว่าจริงๆ ถ้าพิเศษเพียงนิดหน่อยก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ตัวอย่างเช่น บริษัทขนส่งสินค้าในปัจจุบันระหว่าง สีส้มกับสีเหลือง ในอดีตสีส้ม เป็นบริษัทขนส่งที่ทุกคนไว้วางใจและบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเรื่องการจัดส่งไว้ใจได้ แต่บริษัทสีเหลืองมาแข่งราคา ในบริการที่ใกล้เคียงกับสีส้ม สุดท้ายสีส้มเลยต้องยอม มาแข่งราคาเพราะการบริการใกล้เคียงกันมาก ดังการบริการใดๆ ต้องมีความแตกต่างมากๆ จนเป็นสิ่งหนึ่งหรือทางเลือกหนึ่งในการตัดสินใจเลือกบริการนั้นๆ

            3.เลือกกลุ่มลูกค้า การเลือกกลุ่มลูกค้า เชื่อไหมว่าการพูดออกมาเหมือนง่าย แต่หลายๆคนทำยากมากสาเหตุเพราะเรารู้สึกเสียดาย และไม่กล้าลงทุนกลัวยอดขายตก ต้องบอกเลยว่าการเลือกกลุ่มลูกค้าในช่วงระยะแรก ยอดต้องตกอยู่แล้ว แต่ถ้านึกถึงผลดีในระยะยาว ย่อมดีกว่าเสมอ และผมเชื่อว่าถ้าธุรกิจใดเข้ามาในสงครามราคาแล้ว ย่อมถือว่าแย่อยู่แล้ว ถ้าอดทนอีกนิดเพื่อผลดีระยะยาว แนะนำว่า ลองทำตามวิธีนี้ดู ถ้าเราเลือกที่จะไม่ปรับราคา ดังนั้นกลุ่มลูกค้าที่เราเลือกต้องไม่ใช่กลุ่มที่เน้นของถูก เพราะกลุ่มนี้พร้อมที่จะจากเราไปทุกเมื่อ ถ้าอาหาร ต้องมีเอกลักษณ์เหมือนกับว่าถ้าจะทานร้านนี้ต้องสั่งอะไร ถ้าเป็นการให้บริการมาร้านนี้ต้องได้บริการแบบนี้ ถึงจะเรียกว่าสามารถเลือกกลุ่มลูกค้าที่เราต้องการรักษายอดขายได้อย่างแท้จริง