การทำธุรกิจที่แตกต่างกับไม่แตกต่าง แบบไหนดีกว่ากัน?

การทำธุรกิจต้องแตกต่างแค่ไหน หลายๆคนจะทำธุรกิจแตกต่างได้อย่างไร?

คิดไม่ออกก็ล้มเลิกแล้ว สำหรับวันนี้เรามาลองทำกันแบบง่ายๆ เอาแบบเรื่องที่เคยเรียนกันหลักการทำธุรกิจ 4P Marketing

1. Product สินค้า / บริการ

2. Price ราคา

3. Place / Platform ช่องทางการจัดจำหน่าย

4. Promotion / Promote การส่งเสริมการขาย

ถามกันง่ายๆ แบบนี้ ไม่ต้องซับซ้อนคุณสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ไหม

ก่อนที่คุณจะไปทำ Business Model คุณมีความเข้าใจเรื่อง 4p Marketing มากน้อยแค่ไหน ลองกลับไปเติมคำในช่องว่างเล่นๆในการทำธุรกิจของผม ถามว่าความแตกต่างนั้นจำเป็นหรือไม่

สำหรับผมปัจจัยที่สำคัญคือคุณมีความเข้าใจในธุรกิจนั้นดีหรือคุณมี Business Model ที่ดีหรือไม่ เข้าใจเรื่อง 4P Marketing ที่แท้จริงหรือไม่ สุดท้ายก็ต้องไปวัดกันที่ผลตอบแทนระยะสั้นระยะยาว

ผู้คนทั่วไปมักจะต้องการ ผลตอบแทนระยะยาว แต่คุณลองคิดนะ บางทีผลตอบแทนระยะยาวก็ไม่ได้ดีเสมอไป

ยกตัวอย่างง่ายๆ เราทำงานเป็นพนักงานประจำ

สินค้าของเรา คือแรงงาน และ ทักษะ เรามีงานประจำที่มั่นคงซึ่งเป็นผลตอบแทนระยะยาว สมมุติเราเงินเดือน เดือนละ 20,000 บาท 1 ปี = 240,000 บาท ถ้าเราลองมาตั้งคำถามกันว่า ถ้า 1 ปี เราทำเงินได้  1,000,000 บาท แต่ต้องขายธุรกิจทิ้ง เราจะเลือกทำธุรกิจระยะสั้นหรือระยะยาวละซึ่งสิ่งที่ผมพยายามจะสื่อสารว่า แตกต่างหรือไม่แตกต่าง อยู่ที่ผลลัพธ์ว่าต้องการทำกำไรระสั้นหรือระยาว หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง คือร้านของฝาก หนองมน ทุกร้านมีความใกล้เคียงกันมาก แต่ทำไมอยู่ได้

ดังนั้น การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องของความแตกต่างอย่างเดียวขึ้นอยู่กับ Business Model ด้วย

แน่นอนตอบแบบที่ตอบๆ กัน 100% ก็ต้องตอบว่าแตกต่างดีกว่า

❓ แล้วถ้าผมชวนคิดแบบนี้ละ ว่า ผมทำแต่ไม่แตกต่าง แต่ Business Model ผมเน้นกระจายสินค้า ไปทั่วพื้นที่ หรือ ทั่วประเทศ เน้นขายปริมาณ ขายสินค้า อาจจะทำกำไรได้น้อยแต่ถ้าขายปริมาณเยอะก็มีกำไรที่ดีนะ กับ แตกต่าง แต่เราทำ สาขาเดียวให้มีเรื่องราว ว่ามีที่นี่ที่เดียวนะ คุณต้องมาที่นี่ หากินที่อื่น หาขายที่อื่นไม่มีอีกแล้ว

ลองคิดตามอีก จะเห็นว่าการทำธุรกิจที่มีความแตกต่างหรือไม่มีความแตกต่างมันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับว่า Business Model เราวางไว้อย่างไร?