30ก.ค.

เตรียมแผนรับมือก่อนจะโดน Lay off

เลย์ออฟไม่ใช่เรื่องไกลตัว

ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน ธุรกิจเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และเทคโนโลยีเข้ามาแทนแรงงานมากขึ้นการถูกเลย์ออฟกลายเป็นเรื่องที่หลายคนเคยประสบ และอีกจำนวนไม่น้อยอาจเจอในอนาคต

คำถามคือ…“เราจะทำอย่างไร หากวันหนึ่งถูกเลิกจ้างโดยไม่ทันตั้งตัว?”

แทนที่จะรอให้เกิดเหตุการณ์ก่อนค่อยหาทางออก ลองมาเตรียมแผนสำรองไว้ล่วงหน้า เพื่อให้คุณ “พร้อมรับมือ” ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

1. สัญญาณเตือนที่ควรจับตา

ก่อนจะถูกเลิกจ้าง มักมี “สัญญาณเตือน” ที่หลายคนอาจมองข้าม เช่น

  • บริษัทเริ่มลดต้นทุนอย่างเห็นได้ชัด
  • โครงการถูกตัดงบกะทันหัน
  • หัวหน้างานเปลี่ยนท่าทีในการสื่อสาร
  • ไม่มีงานใหม่เข้ามา หรือไม่มีบทบาทใหม่ให้คุณทำ
  • มีข่าวลือภายในองค์กรเรื่องการปรับโครงสร้าง

หากคุณเริ่มสังเกตเห็นสิ่งเหล่านี้ ควรเริ่มวางแผนไว้ตั้งแต่วันนี้ เพราะไม่มีอะไรแน่นอน

2. เตรียมความพร้อมด้านการเงิน

การเงินคือสิ่งที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเมื่อถูกเลิกจ้าง ดังนั้นควร

✅ สร้างเงินสำรองฉุกเฉิน

  • ควรมีอย่างน้อย 3-6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน
  • เก็บในบัญชีที่ถอนง่าย เช่น บัญชีออมทรัพย์ หรือกองทุนตลาดเงิน

✅ ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย

  • ตรวจสอบพฤติกรรมการใช้จ่าย
  • ลดหนี้ที่ไม่จำเป็น เช่น บัตรเครดิต ผ่อนของที่ไม่ใช่สินทรัพย์

✅ วางแผนรายได้สำรอง

  • หางานเสริมหรือรายได้พิเศษ เช่น ขายของออนไลน์ รับงานฟรีแลนซ์
  • หากมีทักษะพิเศษ ลองเปลี่ยนเป็นบริการที่ขายได้

3. สำรวจและพัฒนาทักษะของตัวเอง

การอัปสกิลคือเครื่องมือสำคัญที่จะพาคุณไปต่อได้

✨ สำรวจความสามารถ

  • คุณเก่งเรื่องอะไร?
  • ทักษะไหนเป็นที่ต้องการในตลาด?

✨ เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

  • เรียนออนไลน์จาก Coursera, Skillshare, YouTube, หรือเว็บไซต์ฟรีต่าง ๆ
  • ฝึกใช้โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ ที่สายงานต้องใช้ เช่น Excel, Power BI, Canva, Google Analytics ฯลฯ

✨ เพิ่ม “Soft Skills”

  • ทักษะที่องค์กรต้องการมากขึ้น เช่น การแก้ปัญหา การทำงานเป็นทีม การสื่อสาร การปรับตัว

4. อัปเดตเรซูเม่และโปรไฟล์ออนไลน์

เมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด คุณจะได้ “พร้อมสมัครงานทันที”

✅ ปรับเรซูเม่ให้ทันสมัย

  • เน้นผลลัพธ์ที่เคยทำไว้ เช่น “เพิ่มยอดขาย 20% ใน 3 เดือน”
  • ใช้ภาษากระชับ ชัดเจน

✅ อัปเดต LinkedIn / Job Indeed

  • ใส่ทักษะใหม่ ประสบการณ์ที่เพิ่งทำ
  • ขอคำแนะนำ (Recommendation) จากเพื่อนร่วมงาน/หัวหน้า

5. สร้างความสัมพันธ์ในอาชีพ

อย่ารอจนตกงานแล้วค่อย “วางแผนรับมือ”

🤝 ขยายคอนเนคชัน

  • เข้าร่วมกลุ่มใน Facebook, LinkedIn ที่เกี่ยวกับสายอาชีพ
  • ไปร่วมเวิร์กช็อป สัมมนา หรือกิจกรรมอาชีพต่าง ๆ

💬 เปิดใจพูดคุยกับคนรอบตัว

  • บอกเพื่อนร่วมงานรุ่นเก่า ญาติ หรือคนรู้จักว่าคุณกำลังมองหาโอกาสใหม่
  • โอกาสดี ๆ หลายครั้งมาจากคนรอบตัว


6. เตรียมใจให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง

การถูกเลิกจ้างกระทบทั้งจิตใจและความมั่นใจ คุณอาจรู้สึกว่า “ตัวเองล้มเหลว” แต่ความจริงคือ…

การถูกเลย์ออฟไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่มักเป็นผลจากธุรกิจหรือเศรษฐกิจ

✅ วิธีดูแลจิตใจ

  • อย่าเก็บไว้คนเดียว ระบายความรู้สึกกับคนใกล้ชิด
  • ดูแลสุขภาพกายและใจ ด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ
  • เขียนไดอารี่ หรือทำสมาธิเพื่อลดความเครียด

7. สำรวจสิทธิประโยชน์หลังถูกเลิกจ้าง

ถ้าวันหนึ่งต้องออกจากงานจริง ๆ อย่าลืมสิทธิต่าง ๆ ที่คุณควรได้รับ เช่น:

  • ค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
  • เงินประกันสังคม (กรณีว่างงาน)
  • สิทธิในการใช้ประกันกลุ่ม (อาจมีช่วงเวลาให้ใช้งานต่อได้)
  • เอกสารสำคัญจากบริษัท เช่น หนังสือรับรองการทำงาน


8. มองหาทางเลือกใหม่ในเส้นทางอาชีพ

บางครั้งการถูกเลิกจ้าง คือโอกาสในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ เช่น

  • เปลี่ยนสายงานไปสิ่งที่อยากทำจริง ๆ
  • เริ่มธุรกิจเล็ก ๆ จากทักษะที่มี
  • ทำงานอิสระ (Freelance) หรือ Remote Work

คุณไม่จำเป็นต้องกลับไปอยู่ในกรอบเดิมอีกต่อไป ถ้ากล้าที่จะก้าวออกมา

วางแผนวันนี้ เพื่อไม่ต้องกลัววันพรุ่งนี้

การถูกเลย์ออฟ อาจเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต แต่ถ้าคุณเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างรอบคอบ ทั้งด้านการเงิน ทักษะ และจิตใจ คุณจะไม่เพียง “อยู่รอด” แต่ยังอาจ “เติบโต” ได้มากกว่าที่เคย

✅ Checklist สั้น ๆ เตรียมพร้อมก่อนถูกเลย์ออฟ

  • มีเงินสำรองขั้นต่ำ 3-6 เดือน
  • เรซูเม่และโปรไฟล์ออนไลน์เป็นปัจจุบัน
  • มีรายได้เสริม หรือช่องทางรายได้สำรอง
  • กำลังอัปสกิล หรือเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ
  • มีคอนเนคชัน
  • เข้าใจสิทธิหลังถูกเลิกจ้าง
  • รักษาสุขภาพกายและใจให้พร้อม

หากคุณรู้สึกว่า “ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากตรงไหน” ให้เริ่มจากการทบทวน “ตัวเองในวันนี้”
แล้วถามว่า… “ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีงานนี้อีกต่อไป ฉันจะเดินต่อยังไง?” คำตอบนั้น คุณสร้างได้ตั้งแต่วันนี้เลย 💪