30ก.ค.

ในโลกของการทำงานยุคใหม่ คนเก่ง กลายเป็นทรัพยากรที่มีค่าและหายากที่สุดขององค์กร นั่นทำให้อาชีพอย่าง Recruitment Consultant หรือที่หลายคนเรียกว่า “ที่ปรึกษาด้านการสรรหาบุคลากร” เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่เป็น “ตัวกลาง” เชื่อมโยงระหว่าง องค์กรที่ต้องการหาคน กับ ผู้สมัครที่กำลังมองหางาน โดยมีเป้าหมายในการ “จับคู่” ให้เกิดความเหมาะสมที่สุดทั้งในด้านคุณสมบัติ วัฒนธรรมองค์กร และเป้าหมายในระยะยาว

อาชีพนี้ไม่ใช่แค่การหาคนมา “เติมเต็มตำแหน่ง” ให้ไวที่สุด แต่คือการวิเคราะห์ลึกลงไปถึง “ความต้องการที่แท้จริง” ของทั้งสองฝั่ง และประสานให้เกิดความพึงพอใจร่วมกันและยังกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญขององค์กรยุคใหม่ และเป็นอาชีพที่มีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ในสาย HR

หากคุณเป็นคนที่ทำงานสาย HR อยู่แล้ว หรือกำลังมองหาเส้นทางในโลกของการทำงานการเชื่อมโยงคนให้กับองค์กร อาชีพนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของคุณไปเลยก็ได้

Recruitment Consultant คือใคร?

Recruitment Consultant คือผู้เชี่ยวชาญด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากร โดยทำหน้าที่เป็นคนกลาง เชื่อมโยงระหว่างผู้สมัครงานและองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในบริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดหางาน (Recruitment Agency) หรือเป็น In-house Recruiter ที่ทำงานในองค์กรโดยตรง

หน้าที่หลักของ Recruitment Consultant ได้แก่

1. ทำความเข้าใจความต้องการขององค์กรลูกค้า

  • การสรรหาคนที่ใช่ เริ่มต้นจากการ “เข้าใจโจทย์ให้ชัดเจน” Recruitment Consultant ต้องเริ่มจากการพูดคุยกับลูกค้า (Client) หรือผู้ว่าจ้าง เพื่อเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการค้นหาและคัดเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน
  • ค้นหาผู้สมัครเชิงรุก (Active Search) ไม่ใช่รอให้คนมาสมัครเอง
  • วิเคราะห์ Job Description, วัฒนธรรมองค์กร และความต้องการเฉพาะ บางครั้งอาจจะต้องช่วยเขียนหรือปรับ Job Description ให้สอดคล้องกับตลาดแรงงาน
  • ตรวจสอบเรซูเม่ ประวัติการทำงาน และความเหมาะสมเบื้องต้น

2. สัมภาษณ์เบื้องต้นและประเมินผู้สมัคร

  • ดำเนินการสัมภาษณ์เบื้องต้น (Pre-screening)
  • ประเมินทักษะ บุคลิกภาพ และความเหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กร
  • สรุปข้อมูลและส่งต่อให้ลูกค้าพิจารณา

3. ประสานงานเรื่องข้อเสนอต่าง ๆ เช่น วันที่เริ่มงาน ความพึงพอใจทางผู้สมัครและลูกค้า

  • ช่วยเหลือเรื่องการเริ่มงาน หรือปัญหาก่อนเริ่มงาน
  • ดูแลความพึงพอใจของทั้งผู้สมัครและลูกค้า
  • ติดตามผลการตอบรับของผู้สมัคร

4. ให้คำปรึกษาแก่ผู้สมัครและองค์กร เพื่อให้ได้คนที่ใช่กับองค์กร และงานที่ใช่สำหรับผู้สมัครงาน

  • ให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์แก่ลูกค้าเรื่องตลาดแรงงาน
  • ดูแลความพึงพอใจของทั้งฝ่ายผู้สมัครงานและลูกค้า

แตกต่างจากงานสาย HR ทั่วไปยังไง?

แม้ว่างานจะอยู่ในสาย HR เหมือนกัน แต่อาชีพ Recruitment Consultant มีความแตกต่างจาก HR ทั่วไปอย่างชัดเจน

หากให้เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัด ๆ เข้าใจง่าย ก็คือ Recruitment Consultant ก็เหมือน “นักขาย” ที่ขายตำแหน่งงานให้กับลูกค้าที่เป็นองค์กรต่างๆที่ต้องการพนักงานที่ตรงตามความต้องการขององค์กร เพื่อให้ลดเวลาในการหาบุคลากร และลดอัตราการลาออก เพราะงานไม่ตรงกับคุณสมบัติที่ต้องการ

ทักษะที่ต้องมี ถ้าอยากเป็น Recruitment Consultant

ใครที่กำลังมองหาทางเข้าสู่อาชีพนี้ หรืออยากยกระดับตัวเองจาก HR สายทั่วไป มาดูกันว่า ทักษะที่สำคัญ ที่คนทำอาชีพนี้ควรมี  คืออะไรบ้าง?

1. Communication Skills

การพูดคุย เจรจา ต่อรอง เป็นเรื่องที่ต้องทำทุกวันทั้งกับผู้สมัครและลูกค้า ต้องรู้วิธีตั้งคำถาม ฟังอย่างตั้งใจ และโน้มน้าวอย่างมีชั้นเชิง

2. Sales Mindset

อาชีพนี้ไม่ได้ต่างอะไรจาก นักขาย มากนัก คุณต้องขายโอกาสงาน ขายภาพลักษณ์ขององค์กร และขายศักยภาพของผู้สมัครให้ลูกค้าเชื่อมั่น

3. ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดแรงงาน

คุณต้องรู้ว่าอุตสาหกรรมไหนกำลังโต ทักษะแบบไหนเป็นที่ต้องการ และตำแหน่งไหนมีการแข่งขันสูง เพื่อจะได้วางกลยุทธ์การหาคนได้ถูกต้อง สามารถต่อรอง และให้คำแนะนำลูกค้าได้มากขึ้น เพราะบางครั้งลูกค้าเป็นนักธุรกิจมือใหม่ ไม่ได้มีความเข้าใจในการใช้บริการ การตั้งหลักเกณฑ์ และกฎหมายแรงงานมากนัก Recruitment Consultant จึงจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในด้านนี้ค่อนข้างมาก เพราะว่า นอกจากจะรับงานหาผู้สมัครให้กับลูกค้าแล้ว คุณจำเป็นต้องช่วยให้คำปรึกษาและคำแนะนำที่ถูกต้องให้แก่ลูกค้าอีกด้วย

4. ทักษะการวิเคราะห์บุคคล

การคัดเลือกผู้สมัครไม่ใช่แค่การดูจากเรซูเม่เท่านั้น แต่ต้องอ่านให้ขาด วิเคราะห์ศักยภาพ แรงจูงใจ และวัดความเหมาะสมกับองค์กรลูกค้าให้ได้ด้วย เพื่อให้ลูกค้านั้นได้พนักงานที่มีความรู้ความสามารถตรงตามที่ลูกค้าต้องการและเพื่อให้ทางผู้สมัครงานเองก็ได้งานที่ตรงกับความต้องการของตัวเองเช่นกัน

5. ความสามารถในการจัดการหลายโปรเจกต์

ใน 1 วัน คุณอาจจะต้องดูแลพูดคุยกับลูกค้า ผู้สมัครงานหลายสิบคน และหลากหลายตำแหน่งงาน ต้องให้บริหารเวลาและข้อมูลอย่างมีระบบ เพื่อไม่ให้งานแต่ละงานนั้นเกิดข้อผิดพลาด

ข้อดีของการทำงานเป็น Recruitment Consultant

1. รายได้ดีและมีค่าคอมมิชชัน

นอกจากเงินเดือนที่ได้เป็นประจำอยู่แล้วนั้น Recruitment Consultant มักได้รับค่าคอมมิชชันจากการปิดตำแหน่งงานได้ จึงเป็นอาชีพที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้สูงมากขึ้นกว่าHRทั่วไป

2. สร้างเครือข่ายและโอกาสใหม่ๆ

คุณจะได้พบคนเก่ง ๆ  มากมาย รวมถึงผู้บริหารระดับสูง ซึ่งสามารถต่อยอดโอกาสในอนาคตได้อีกมากมาย

3. พัฒนาทักษะรอบด้าน

การทำงานที่ต้องสื่อสาร วิเคราะห์ เจรจา ขาย และวางแผนตลอดเวลา จะทำให้คุณโตเร็วและเป็นนัก HR ที่ครบเครื่องมากขึ้น

4. ได้เรียนรู้หลายธุรกิจ

โดยเฉพาะคนที่ทำงานใน Recruitment Agency คุณจะได้เข้าใจอุตสาหกรรมหลากหลาย และได้รู้ว่าวัฒนธรรมองค์กรแต่ละองค์กรต่างกันอย่างไร

ข้อเสียหรือความท้าทาย

1. ความกดดันจากยอดเป้าหมายและลูกค้า

สายงานนี้มักจะมี KPI หรือเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ต้องปิดตำแหน่งนี้ให้ได้ภายในกี่วัน จึงอาจจะเกิดความเครียดได้หากไม่สามารถปิดงานได้ตามเป้าหมายที่กำหนด

2. ต้องบริหารงานหลายฝั่ง

ฝั่งลูกค้า: คาดหวังว่าจะได้ผู้สมัครที่ “ตรงทุกข้อ” ภายในเวลาอันรวดเร็ว

ฝั่งผู้สมัคร: อาจลังเล เปลี่ยนใจ หรือปฏิเสธข้อเสนอในนาทีสุดท้าย ทำให้กระทบกับผลลัพธ์และความเชื่อมั่นของลูกค้า

ต้องประสานงานทั้งด้านลูกค้าและด้านผู้สมัครงาน หากมีความไม่พึงพอใจจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คุณจะต้องเป็นคนกลางที่ต้องรับมือให้ได้ ช่วยเจรจาให้ลงตัวได้ เริ่มงานตามที่กำหนดให้ได้

3. งานเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

บางครั้งผู้สมัครที่คุณมั่นใจว่าได้งานแล้ว อาจจะเปลี่ยนใจนาทีสุดท้ายก็ได้ หรือบริษัทลูกค้าอาจจะยกเลิกตำแหน่งกะทันหันเนื่องจากได้คนก่อนแล้ว ทำให้ต้องมีทักษะแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าอยู่เสมอ

อาชีพ Recruitment Consultant เหมาะกับใคร?

Recruitment Consultant เป็นอาชีพที่เหมาะกับคนที่…

  • ชอบสื่อสาร เจรจา ชอบพบปะผู้คน และไม่กลัวการปฏิเสธ

Recruitment Consultant ต้องพูดคุยกับคนหลายระดับ ทั้งผู้สมัคร ผู้จัดการสายงาน และลูกค้าองค์กร การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความน่าเชื่อถือจึงเป็นหัวใจสำคัญของงานนี้

  • มีความเข้าใจตลาดแรงงานและองค์กรธุรกิจประเภทต่าง ๆ อย่างหลากหลาย
  • ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง และมีใจรักในงานขาย งานบริการ มีความสามารถในการวิเคราะห์

คุณวิเคราะห์คนจากเรซูเม่ การพูดคุยสั้น ๆ หรือแม้กระทั่งภาษากาย เพื่อประเมินว่าคน คนนี้ “เหมาะสม” กับองค์กรและตำแหน่งหรือไม่ ซึ่งต้องใช้ความเข้าใจเชิงจิตวิทยาและการสังเกตละเอียด

  • สามารถจัดการความกดดันได้ดี และมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงาน

อาชีพนี้มี KPI ชัดเจน เช่น จำนวนคนที่ต้องปิดในแต่ละเดือน หรือเวลาที่ใช้ในการสรรหา อีกทั้งยังต้องรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิด เช่น ผู้สมัครเปลี่ยนใจ หรือดีลล่มกะทันหัน

สรุป สายHR ต้องรู้จักอาชีพนี้ให้ดี!

ในโลกของการทำงานที่แข่งขันกันด้วย คนเก่ง การมีRecruitment Consultant ที่เข้าใจทั้งองค์กรและผู้สมัครงานอย่างแท้จริง คือกุญแจสำคัญในการดึงดูดและรักษาคนคุณภาพไว้กับองค์กรได้

หากคุณเป็น HR ที่อยากต่อยอดบทบาทของตัวเองให้มีความท้าทายมากขึ้น หรือเป็นคนที่อยากเข้าสู่วงการ HR แบบเต็มตัว

 Recruitment Consultant คืองานที่ให้ทั้งความท้าทาย รายได้ และโอกาสเติบโตที่คุณไม่ควรมองข้าม

จำไว้ว่าการเป็น Recruitment Consultant ที่ดี ไม่ใช่แค่หาคนมาให้ครบ แต่คือการจับคู่ “คนที่ใช่กับงานที่ใช่” อย่างแท้จริง