fbpx
22ต.ค.

ข้อดีข้อเสียของการทำงานในองค์กรเล็กVSองค์กรใหญ่

การทำงานไม่ว่าจะทำงานในองค์กรใหญ่ หรือองค์กรเล็ก แต่ละองค์กรก็จะมี ข้อดี ข้อเสีย ที่แตกต่างกันไป เรามาดูกันว่า แต่ละองค์กรมี ข้อดี ข้อเสีย อย่างไรบ้าง

🏢การทำงานในองค์กรขนาดใหญ่ สิ่งที่เราจะได้รับ ก็คือ

👍ข้อดี

1. มีโอกาสได้เรียนรู้มาก

การมีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย เนื่องจาก องค์กรใหญ่ มักจะเป็นองค์กรที่มี ระบบการทำงานที่ชัดเจนเป็นมาตรฐาน และมีระบบขององค์ความรู้ที่ถูกสะสม เก็บไว้สำหรับถ่ายทอดให้กับพนักงานด้วยการฝึกอบรม หรือฝึกทักษะให้พนักงานมี ความรู้ความสามารถ ความชำนาญในการทำงานอย่างแท้จริง และถูกต้องตามหลักมาตรฐานที่องค์กรกำหนดไว้ จนเป็นองค์ความรู้ที่มีความน่าเชื่อถือถูกต้องและใช้งานได้จริง

2. ได้ความน่าเชื่อถือ

การทำงานในองค์กรใหญ่สิ่งหนึ่งที่จะได้ ก็คือ ความน่าเชื่อถือ เนื่องจาก เราผ่านงานในองค์กรใหญ่ๆ มา เราก็จะได้รับการยอมรับจากองค์กรเล็กๆ อื่นๆ ว่า เรามีความรู้ความสามารถมากเพียงพอ ตามมาตรฐานที่องค์กรใหญ่มีอยู่ จึงทำให้เราได้รับการยอมรับจากองค์กรที่เล็กกว่าว่า เราน่าจะเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถสูงมากพอ เมื่อเทียบกับองค์กรเล็กที่เขาทำอยู่ ทำให้เวลาเราหางานแล้ว จะทำให้เรามีเครดิตหรือความน่าเชื่อถือมากกว่า จะสามารถทำงานในองค์กรเล็กได้ดี เนื่องจากเคยทำงานในองค์กรใหญ่มาก่อน

3. ฐานเงินเดือนสูง

การทำงานในองค์กรใหญ่ๆ สิ่งหนึ่งที่มักจะดี ก็คือ ฐานเงินเดือนมักจะสูง สวัสดีการมักจะดี เนื่องจากเป็นองค์กรที่ใหญ่ จึงมีความมั่นคงในฐานะการเงิน มีสวัสดิการที่ดี จึงสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงได้กับพนักงานที่ทำงานอยู่ในองค์กรใหญ่นี้ แต่ลักษณะงานที่ทำ อาจจะได้ทำในลักษณะงานเฉพาะหน้าเกินไป ไม่ได้รับความรู้ที่หลากหลายในหลายส่วนเนื่องจากเป็นองค์กรใหญ่มาก การทำงานจึงถูกจำกัดไว้อย่างชัดเจนเฉพาะงานที่มาก หมายถึง จะมีความชำนาญเฉพาะด้านเท่านั้นในองค์กรใหญ่ๆ

👎ข้อเสีย

การทำงานในองค์กรใหญ่ๆ นั้น มีข้อจำกัดหลายอย่าง ซึ่งไม่อยากจะเรียกว่าเป็นข้อเสีย แต่จะเรียกว่าเป็น ข้อที่ขัดขวางการเรียนรู้ของเราอย่างหนึ่ง ก็คือ

1. ไม่สามารถทำงานหลายตำแหน่งได้

การทำงานในองค์กรใหญ่นั้น เราไม่สามารถจะทำงานหลายๆหน้าที่ได้ เนื่องจากเป็นองค์กรใหญ่ เพราะเนื้องานในส่วนที่เป็นหน้าที่หลัก ก็มีปริมาณมากอยู่แล้ว เพียงแค่ทำงานในหน้าที่ประจำของเรา ก็มีปริมาณงานมากพอที่จะต้องทำให้เสร็จในแต่ละวัน จึงไม่มีโอกาส ที่เราจะได้ไปเรียนรู้งานในส่วนอื่นๆ เพราะความเป็นองค์กรใหญ่ทุกสิ่งทุกอย่าง หมายถึง ปริมาณงานก็ต้องยิ่งใหญ่ตามขนาดขององค์กร ในบางองค์กรที่ใหญ่จริงๆ แค่ตำแหน่งเดียว อาจจะมีถึง 3-4 คนที่ทำงานเหมือนกันในตำแหน่งหน้าที่เดียวกัน เนื่องจาก transaction หรือกิจกรรมของบริษัทนั้นมีปริมาณมากจริงๆ

2. เลื่อนตำแหน่งยาก

การทำงานในองค์กรใหญ่ อาจจะมีข้อจำกัดอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ ในเรื่องของการเลื่อนตำแหน่ง อาจจะมีโอกาสน้อยมากเนื่องจากเป็นองค์กรใหญ่ ดังนั้น ตำแหน่งที่จะเลื่อนขึ้นไปจะมีเพียงแค่ 1 ตำแหน่ง ในขณะที่ผู้ที่มีโอกาสที่จะได้เลื่อนตำแหน่งนั้น อาจจะมีถึง 4-5 คนในหน่วยงานเดียว จึงเป็นไปได้ยากมาก ที่จะมีโอกาสได้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆ หรือได้รับการโปรโมทให้ขึ้นตำแหน่งสูงในระยะเวลาสั้น

🏡การทำงานในองค์กรขนาดเล็ก สิ่งที่เราจะได้รับ ก็คือ

👍ข้อดี

1. ได้เรียนรู้งานหลายด้าน

มีโอกาสที่จะได้เรียนรู้งานทุกส่วนพร้อมๆกันได้ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากเป็นองค์กรขนาดเล็ก ดังนั้น จำนวนคนที่อยู่ในองค์กร จึงมีไม่มากงาน หลายๆงาน จึงอาจจะต้องใช้คนๆเดียวทำไปพร้อมๆ กัน หรือมีหน้างานหลายๆ หน้างานให้เรียนรู้ได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นข้อดี เพราะเราจะได้มีประสบการณ์ในการทำงานในหลายๆ หน้าที่ในเวลาเดียวกัน

เช่น พนักงานบัญชี เราอาจจะต้องทำทั้ง AR, AP หรือมีโอกาสได้ทำ GL ด้วย จึงทำให้เรามีโอกาสได้เรียนรู้งานในทุกส่วนของบัญชีในองค์กรเล็กๆ ได้รวดเร็วกว่าในระยะเวลาเท่ากันกับที่ทำงานในองค์กรใหญ่ หมายความว่า ในเวลา 3 ปีของการทำงานในองค์กรเล็ก ๆ เราอาจจะได้เรียนรู้การทำบัญชีในแผนกอื่นๆ จนเกือบครบหมดแล้ว ในขณะที่การทำงานในองค์กรใหญ่ๆ นั้น อาจจะทำงานอยู่ที่แผนกเดียวตลอดมา 3 ปีไม่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เลย

2. มีความคล่องตัวในการทำงาน

การทำงานในองค์กรเล็ก จะมีความคล่องตัวในการทำงาน และตัดสินใจ การเข้าถึงผู้บริหารจึงเป็นเรื่องที่ง่าย มีโอกาสที่จะแสดงฝีมือ หรือแสดงความสามารถให้ผู้บริหารเห็นได้ง่ายมากขึ้นเพราะเป็นองค์กรเล็ก จึงไม่มีระบบขั้นกลางของแต่ละลำดับชั้นการทำงานขึ้นไป หมายความว่า แม้เราจะเป็นพนักงานเล็กๆ เราก็มีสิทธิ์ที่จะได้ร่วมประชุมกับเจ้าของบริษัทหรือผู้บริหารสูงสุดของบริษัทได้ ดังนั้น ไม่ว่าการประชุมเรื่องใดๆ ก็ตาม เราก็แทบจะมีโอกาสได้เข้าไปร่วมรับรู้ หรือช่วยออกความเห็น หรือแสดงความสามารถได้ แม้จะเป็นงานที่ตรงกับตำแหน่งหน้าที่โดยตรง หรือเป็นลักษณะที่ต้องมีความช่วยเหลือกัน โอกาสที่จะได้ก้าวหน้าในการทำงานก็จะมีสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริหารสามารถมองเห็นความสามารถได้ทันทีที่เราได้ร่วมงาน หรือแสดงความสามารถในการทำงานในช่วงเวลาสั้นๆ

👎ข้อเสีย

1. ฐานเงินเดือนต่ำ

การทำงานในองค์กรเล็กๆ อาจจะมีข้อเสียบ้าง ก็คือ ในเรื่องของอัตราเงินเดือนที่ได้รับ อาจจะไม่สูงเท่ากับการทำงานในองค์กรใหญ่ๆ เนื่องจากความสามารถในการจ่ายขององค์กรเล็กๆ นั้น ย่อมสู้องค์กรใหญ่ๆ ไม่ได้ ในเรื่องของเงินทุน หรือกำไรที่องค์กรใหญ่ๆ เขาสะสมมานาน การจ่ายเงินเดือนที่สูงกว่าปกติ หรือสูงกว่าองค์กรเล็กๆ จึงเป็นเรื่องที่ธรรมดามากสำหรับองค์กรใหญ่ๆ ส่วนองค์กรเล็กๆ นั้น การจ่ายเงินเดือนที่สูงจะทำให้มีผลต่อค่าใช้จ่ายของบริษัทมากจนทำให้บริษัทอาจจะดำเนินกิจการต่อไปยากลำบาก หรือไม่มีกำไรมากพอที่จะจัดสวัสดิการที่ดีให้กับพนักงาน เทียบเท่าได้กับองค์กรใหญ่

2. องค์ความรู้น้อย

การทำงานในองค์กรเล็ก อาจจะมีข้อเสียอย่าง ก็คืออาจจะมีองค์ความรู้ หรือการสะสมความรู้ ที่สำหรับใช้ถ่ายทอดให้กับพนักงานในองค์กรเล็กๆ ผ่านหัวหน้างาน หรือคนที่ทำงานมาก่อนแล้วนั้น อาจจะมีน้อยมาก เนื่องจากเป็นองค์กรที่ทำทุกอย่าง หรือทำหลายๆอย่าง โดยคนคนเดียว จึงทำให้การรวบรวมความรู้ประสบการณ์เป็นไปได้น้อย เพราะไม่มีเวลาที่จะมานั่งทำเรื่องพวกนี้ได้เหมือนกับองค์กรใหญ่ๆ ที่เขามีทีม ที่สามารถทำเกี่ยวกับเรื่องความรู้ประสบการณ์ หรือการทำคู่มือการทำงานให้เป็นระบบระเบียบได้ง่ายกว่า ดังนั้น องค์กรเล็กๆ จึงขาดโอกาสที่จะได้เรียนรู้อย่างเป็นระบบ ถูกต้อง ชัดเจน จากการสะสมประสบการณ์ที่อาจจะมีบ้าง แต่ไม่ยาวนานเทียบเท่ากับองค์กรใหญ่ การได้รับการฝึกอบรม หรือถ่ายทอดความรู้ จึงเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งขององค์กรเล็กๆ

สรุป

✔การทำงานในองค์กรใหญ่ มีโอกาสได้เรียนรู้อย่างเป็นระบบถูกต้องได้มากกว่าการอยู่ในองค์กรเล็กๆ

✔การทำงานในองค์กรใหญ่ จะได้รับผลตอบแทน หรือสวัสดิการที่ดีกว่าองค์กรเล็กๆ

✔การทำงานในองค์กรใหญ่ จะขาดโอกาสที่จะได้เรียนรู้งานในหลายๆหน้าที่

✔การทำงานในองค์กรใหญ่ โอกาสที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง หรือมีการพัฒนาของตำแหน่งหน้าที่การงานให้สูงขึ้นนั้น จึงเป็นไปได้