fbpx
19ก.ค.

เหตุการณ์แบบนี้น้องๆ ที่จบใหม่หลายคนอาจจะเคยเจอกันมาแล้ว ในใบสมัครก็บอกชัดเจนเลยว่า ต้องการคนที่ทำงานเป็นทีมได้ แต่พอเอาเข้าจริง เหมือนเราแบกงานทุกอย่างเอาไว้คนเดียว ซึ่งในกรณีแบบนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าหัวหน้างาน Assign งานไม่ดี หรือว่าอาจจะเห็นเราทำงานดี ทำงานเสร็จไว ทำให้งานตกมาอยู่ที่เราคนเดียว น้องๆ คนไหนที่กำลังเจอสถานการณ์แบบนี้ ออร์คิดจ๊อบแนะนำว่าให้คุยกับหัวหน้าตรงๆ ว่าตอนนี้งานมันมาโหลดอยู่ที่เรานะ และเสนอแนวทางแก้ปัญหาไปเลยว่างานส่วนนี้ที่เรารับผิดชอบอยู่ สามารถให้คนนั้นคนนี้ทำแทนได้มั้ย และถ้าไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดถ้างานมันเกิดปัญหาขึ้นมา หัวหน้าเขาก็จะรู้แล้วว่า ปัญหามันเกิดจากอะไร เพราะว่าเราได้แจ้งให้เขาทราบไปแล้ว อันนี้คือในกรณีที่เกิดจากการแบ่งงานไม่ดี   

แต่ถ้าเป็นกรณีที่คนอื่นตั้งใจกินแรงเราอยู่แล้ว พูดง่ายๆ ก็คือ ตั้งใจไม่ทำงาน ตั้งใจที่จะโยนงานให้เรา เพราะเห็นเราเป็นเด็ก หรือว่าเห็นเราเข้ามาใหม่ ในกรณีแบบนี้ส่วนหนึ่งก็อาจจะมาจากวัฒนธรรมองค์กรด้วย เช่น คนที่ตำแหน่งสูงๆ ก็มักจะโยนงานให้คนที่ตำแหน่งต่ำกว่าทำ หรือน้องๆ ที่เข้ามาใหม่ก็รับจบงานทั้งหมดไป เพราะถือว่าคนที่เข้ามาใหม่ยังไงก็ต้องเรียนรู้งานอยู่แล้ว ก็ทำไปเลยตั้งแต่ตอนนี้ และที่สำคัญคือน้องๆ ที่เข้ามาทำงานใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะไม่กล้าปฏิเสธ เขาสั่งอะไรมาก็ต้องทำ เพราะฉะนั้น งานจะมากองอยู่ที่เราคนเดียวก็ไม่แปลก

งานที่เขาโยนมาให้เรา ให้เรามองเป็นโอกาส เพราะเราอาจจะเด่นขึ้นมาได้ จากงานที่คนอื่นไม่อยากทำ เช่น งานมันอาจจะยาก หรือเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบสูง จนคนอื่นไม่อยากทำ และถ้าเราทำออกมาได้ดี เราอาจจะโดดเด่นขึ้นมาในสายตาของหัวหน้าก็ได้ หรืออย่างน้อยที่สุดมันก็คือโอกาสที่เราจะได้เรียนรู้ เพื่อให้เราได้ไปเจองานที่ชอบหรือไม่ชอบจริงๆ ในอนาคต  

ถามว่าทำไมออร์คิดจ๊อบถึงอยากให้น้องๆ ปรับที่ Mindset ของตัวเองก่อน เพราะอย่าลืมว่า เรายังเป็นแค่คนทำงานตัวเล็กๆ เราไม่สามารถเอาตัวเองเข้าไปเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรขนาดใหญ่ หรือว่าไปเปลี่ยนแปลงนิสัยใจคอของใครได้ นึกออกมั้ย เพราะฉะนั้น สิ่งแรกที่เราต้องจัดการก็คือ กระบวนการคิด หรือ Mindset ของเราเอง เพื่อให้เราทำงานได้อย่างมีความสุข

ส่วนอีกหนึ่งข้อที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การสื่อสารกันระหว่างคนในทีม เพราะบางครั้งที่หัวหน้า Assign งานมาให้เรา เขาอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าเรากำลังติดงานอะไรอยู่ หรือมีงานด่วนในมือกี่งาน เพราะเขาคิดแค่ว่า งานนี้ต้องมีคนทำ แล้วแจ็คพอตมันก็มาลงที่เรา เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราต้องทำก็คือ คุยให้เข้าใจ ไม่ว่าจะกับหัวหน้างาน หรือคนในทีม อธิบายว่าเราติดงานอะไรอยู่กี่งาน มีงานเร่งด่วนกี่งาน และถ้าจะให้เราทำงานนี้จริงๆ เราขอขยับงานนั้นออกไปได้มั้ย หรือให้คนอื่นทำงานนั้นแทนได้มั้ย ซึ่งทุกคนในทีมจะต้องคุยกัน และวางแผนร่วมกันเพื่อหาทางออกให้ทุกงานสำเร็จไปได้ด้วยดี

และสิ่งที่ออร์คิดจ๊อบอยากจะแนะนำน้องๆ อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เมื่อเราได้รับมอบหมายงานอะไรมาแล้ว ให้เราเขียนออกมา หรือ สร้างตารางการทำงานร่วมกันกับคนในทีม แล้วเขียน Deadline ให้ชัดเจน เพื่อให้ทุกคนในทีมรับรู้ร่วมกันว่าตอนนี้ใครมีงานอะไรอยู่ในมือบ้าง และถ้างานมันโหลดจริงๆ เราจะได้มีรายละเอียดไปคุยเพื่อทุกคนให้เห็นภาพมากขึ้น และจะได้แก้ปัญหาร่วมกันได้