In-house Recruitment หรือ Recruitment Agency การสรรหาแบบไหนที่เหมาะกับองค์กรคุณ
ทำไมการเลือกวิธีสรรหาจึงสำคัญมาก ๆ เพราะว่าการขาดบุคลากรเก่ง ๆ คือคอขวดในการเติบโตของธุรกิจ หลายองค์กรมักจะลังเลระหว่างสร้างทีมสรรหา In-house (ดูแลเอง) กับการใช้ Recruitment Agency ในการหาบุคลากรเพิ่ม คำตอบคือไม่มีสูตรตายตัว แต่มีวิธีคิดที่ชัดเจน วันนี้เราสรุปมาให้คุณแล้ว ครบ จบ ในบทความเดียว! บอกถึงความต่าง ข้อดี–ข้อจำกัด ตัวอย่างสถานการณ์ และเช็กลิสต์ ให้คุณตัดสินใจเลือกได้ทันที!

คำจำกัดความสั้น ๆ ระหว่าง In-house Recruitment และ Recruitment Agency
In-house Recruitment คือ ทีมสรรหาที่เป็นพนักงานของบริษัทอยู่แล้ว ซึ่งมีหน้าที่ดูแลงานตั้งแต่กำหนด JD, หา Candidate, คัดเลือก, วัดผล ไปจนถึงการดูภาพรวมของ Employer Branding
Recruitment Agency คือการจ้างทีมสรรหาภายนอก ที่เน้นในการสรรหาบุคลากรโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีการคิดเงินค่าบริการ ตามตำแหน่งงาน และตามจำนวนบุคลากรที่ขององค์กรต้องการ
ข้อดี-ข้อจำกัด ของ In-house Recruitment
In-house Recruitment
ข้อดี ✅
👉ทีม In-house มักจะเข้าใจวัฒนธรรมองค์กรมากกว่า
👉สามารถควบคุมและกำหนดประสบการณ์ของผู้สมัครให้กับองค์กรได้ง่ายกว่า
👉สามารถเก็บสะสม Talent Pool ที่เป็นฐานข้อมูลโปรไฟล์ของผู้สมัครงานที่มีศักยภาพและสนใจอยากทำงานร่วมกับองค์กร แต่ยังไม่มีตำแหน่งงานที่ว่าง และเมื่อใดที่องค์กรมีตำแหน่งงานว่าง องค์กรก็สามารถดึงข้อมูลผู้สมัครเหล่านี้มาใช้ในการสรรหาพนักงานที่มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการขององค์กรได้อย่างรวดเร็ว
👉ถ้าต้องการหาคนอย่างต่อเนื่อง การมี In-house จะช่วยลดต้นทุนในการสรรหาพนักงานได้
👉ถ้า In-house เป็นผู้สัมภาษณ์งานเอง ทางผู้สมัครอาจจะรู้สึกมั่นใจกับการสัมภาษณ์มากกว่า
ข้อจำกัด 🚫
👉ต้องลงทุนตั้งทีมขึ้นใหม่ และต้องใช้เวลาในการเทรนพนักงานให้เป็นเหมือน Recruiter
👉เมื่อเกิดช่วงพีคที่หาคนได้ยาก ธุรกิจอาจจะเกิดคอขวดได้
แล้วถ้าองค์กรเปลี่ยนมาใช้บริการสรรหาพนักงานจาก Recruitment Agency แทนการใช้ In-house Recruitment จะดีกว่าและช่วยธุรกิจของคุณอย่างไรได้บ้าง?
ข้อดี ✅
👉เน้นการสรรหาผู้สมัครโดยเฉพาะและมีฐานข้อมูลผู้สมัครหลากหลายกว่า บางครั้งก็สามารถสรรหาผู้สมัครได้รวดเร็วกว่า
👉เข้าถึง Candidate เฉพาะสายงานได้ไวกว่า เพราะมีความเชี่ยวชาญเรื่องตลาดแรงงานในหลายสายอาชีพ
👉เนื่องจากเป็นการจ้าง Recruitment Agency ภายนอกโดยตรง ก็สามารถช่วยลดภาระงานของพนักงานในบริษัทได้มากขึ้น และองค์กรไม่ต้องเสียเวลาและงบประมาณในการจัดตั้งทีมสรรหาพนักงานขึ้นมาใหม่
Tip💡 ถ้าธุรกิจมีจำนวนการจ้างต่อปีสูงและสม่ำเสมอ → In-house มักคุ้มกว่าในระยะยาว
ถ้าเป็น ตำแหน่งยาก เร่งด่วน หรือปริมาณผันผวน → Recruitment Agency มักยืดหยุ่นและเร็วกว่า

Case Study ของกลุ่มธุรกิจต่างๆ
1.สตาร์ทอัปเทคโนโลยี
บริษัทเทคโนโลยีเพิ่งเริ่มขยายทีม ต้องการเพิ่มโปรแกรมเมอร์และนักพัฒนาระบบ 20 คนภายใน 4 เดือน
ปัญหา: ทีม In-house ยังเล็ก ไม่มีคนเพียงพอในการสรรหา และไม่มีฐานผู้สมัครเฉพาะทาง ทำให้ปิดตำแหน่งยาก
วิธีแก้: จ้างAgency ช่วยสรรหาผู้สมัครแบบเร่งด่วน โดยให้เอเจนซี่เข้ามาดูแลตั้งแต่ประกาศงานจนถึงสัมภาษณ์รอบแรก ในขณะเดียวกันก็อาจจะเริ่มสร้างทีม In-house เพื่อสรรหาตำแหน่งอื่น ๆ ต่อไป
ผลลัพธ์: สามารถปิดตำแหน่งได้ไว และยังมีทีมสรรหาในองค์กรเพื่อรองรับการสรรหาพนักงานในอนาคตได้อีกด้วย
2.โรงงานเปิดไลน์ผลิตใหม่
โรงงานกำลังเปิดไลน์ผลิตใหม่ ต้องการแรงงานจำนวนมากภายในระยะเวลาสั้น
ปัญหา: HR ภายในไม่สามารถสรรหาพนักงานที่มีความสามารถเฉพาะทางและต้องหาในจำนวนมากได้ทัน
วิธีแก้: ลงทุนสร้าง ทีม In-house Recruitment เป็นทีมดูแลหลัก พร้อมทั้งใช้บริการ Recruitment Agency เพื่อเป็นทีมสรรหาคนสำหรับตำแหน่งที่หาคนเฉพาะทางได้ยาก
ผลลัพธ์: สามารถคุมคุณภาพและ Employer Brand ได้ในเวลาเดียวกัน ทั้งยังสามารถสรรหาคนในตำแหน่งยาก ๆ ได้ทันเวลา
เช็กลิสต์ตามนี้ ช่วยให้คุณตัดสินใจได้เร็วแน่นอน!
1.ปีนี้ต้องการสรรหาพนักงานกี่อัตรา ในช่วงเวลาต่อเนื่องทั้งปี หรือเฉพาะช่วงพีคขององค์กร
2.ตำแหน่งส่วนใหญ่ เป็นตำแหน่งที่หาได้ง่ายทั่วไป หรือเป็นตำแหน่งเฉพาะทางที่หาได้ยาก
3.ต้องการพนักงานเริ่มงานไวแค่ไหน
4.คิดงบรวม ลองคิดเปรียบเทียบดูว่า งบประมาณที่สูญเสียไประหว่างตำแหน่งงานว่าง หาคนมาทำงานไม่ได้สักที กับการจ้างเอเจนซี่แล้วได้คนเริ่มงานไว วิธีไหนสูญเสียงบประมาณมากกว่า
5.ความพร้อมขององค์กรในการจัดตั้งทีมสรรหาบุคลากร
6.พร้อมทำสัญญาการจ้างและพร้อมให้ข้อมูลของบริษัทเพื่อประกอบการนำไปสรรหาบุคลากรมากน้อยแค่ไหน
7.ต้องการสร้าง Employer Brand ในระยะยาวมากน้อยแค่ไหน
สุดท้ายแล้วจะเลือกอะไรดี?

ถ้าอยากสร้างทีม In-house ขึ้นเอง
1.วาง Hiring Plan รายไตรมาส
2.สร้างคะแนนการประเมินในแต่ละ JD
3.ทำ Talent Marketing สร้างหน้า Career, ทำคอนเทนต์ชีวิตการทำงานในบริษัท
4.จัดทำคู่มือที่ใช้ในการ อบรมพนักงานเรื่องขั้นตอนสื่อสาร, สร้างเทมเพลตอีเมล, สร้างแบบคำถามสัมภาษณ์
5.วัดผลทุกเดือน ดูแหล่งที่มาของผู้สมัคร, ตรวจคุณภาพของพนักงานหลังเริ่มงาน
ถ้าต้องการใช้บริการจาก Recruitment Agency
1.กำหนดตำแหน่งงานที่ต้องการสรรหา และเลือกเอเจนซี่ที่ต้องการใช้บริการด้วย
2.กำหนดวันเวลาในการสรรหา และกำหนดระยะเวลาการทดลองงานของพนักงานที่เข้ามาทำงาน
3.กำหนดเวลาที่พร้อมในการสัมภาษณ์ผู้สมัคร
4.คอยเช็คและประสานงานเรื่อง JD และข้อเสนอกับทางเอเจนซี่บ่อย ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการสรรหาต่อไป
ถ้าต้องการใช้บริการ Recruitment Agency เพื่อสรรหาคนได้ตรงตามความต้องการและรวดเร็ว องค์กรควรระวังสิ่งเหล่านี้
👉การให้ JD ที่กว้างและคลุมเครือ ควรกำหนดไปให้ชัดเลยว่าเราต้องการคุณสมบัติใดบ้าง
👉ขาดข้อมูลเรื่องเงินเดือน อาจจะไม่ดึงดูดผู้สมัครให้เข้ามาสมัครงาน
👉สัมภาษณ์หลายรอบเกินจำเป็น ทำให้เกิดกระบวนการวกวนซับซ้อน
👉 Feedback ช้า อาจจะทำให้พลาดผู้สมัครงานที่มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการได้

FAQ
คำถาม: ถ้าธุรกิจเพิ่งเริ่ม ควรเลือกแบบไหน?
ตอบ: ถ้าพึ่งเริ่มทำธุรกิจ ลองใช้บริการ Recruitment Agency แบบยืดหยุ่นก่อน เพื่อที่คุณจะได้สรรหาพนักงานได้เร็ว และระหว่างการสรรหา คุณสามารถวางระบบพื้นฐานให้พร้อมและสามารถสร้างทีม In-houseได้
คำถาม: จ้างเอเจนซี่ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
ตอบ: เตรียม JD ให้ชัดเจน, กำหนดเกณฑ์คัดเลือก, กำหนดงบในการสรรหา, กำหนดช่วงเงินเดือนพนักงาน, เตรียมกระบวนการอนุมัติข้อเสนอ, เตรียมหาผู้ติดต่อหลักในการประสานงาน
คำถาม: สามารถใช้วิธีการสรรหาโดยผสมทั้งสองแบบได้ไหม?
ตอบ: ได้ การสรรหาทั้งสองช่องทางพร้อมกันเป็นการสรรหาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อที่คุณจะได้เน้น ให้ In-house คุมภาพลักษณ์ขององค์กรและดูแลข้อมูลผู้สมัครงานทั้งหมด ส่วน Recruitment Agency ก็ช่วยเสริมแรงในการสรรหาพนักงานและหาพนักงานเฉพาะทางให้องค์กรได้ไวขึ้น
สรุปแล้ว… In-house Recruitment เหมาะกับบริษัทที่มีทรัพยากรและต้องการความต่อเนื่อง รวมถึงความเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร และ การใช้บริการ Recruitment Agency เหมาะกับบริษัทที่ต้องการประหยัดเวลา ต้องการผู้เชี่ยวชาญ หรือสรรหาในช่วงเร่งด่วนหลายบริษัทเลือกใช้ทั้งสองวิธีในการสรรหาพนักงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น ใช้ทีม In-house ในการสรรหาตำแหน่งทั่วไป และจ้าง Recruitment Agency สำหรับการสรรหาตำแหน่งงานเฉพาะทาง
และองค์กรไหนที่กำลังสรรหาพนักงานตำแหน่งไหน สามารถให้ทาง Orchid jobs ช่วยคุณในการสรรหาพนักงานได้นะ! รับประกันการบริการ ทีมของเราช่วยสรรหาคนที่ใช่ให้กับองค์กรของคุณได้อย่างแน่นอน!