หลายๆคนคงเคยได้ยินคำว่าไม่เลือกงานไม่ยากจน แล้วมันจริงหรือไม่ ในความเป็นจริงคนเรามีสิทธิ์เลือกงานไหม ทำไมต้องเลือก เวลาไหนที่เราจะมีสิทธิ์เลือกเวลาไหนเราไม่ควรเลือกล่ะ
ไม่เลือกงานไม่ยากจน จะบอกว่าเมื่อถึงสถานการณ์หนึ่งที่เราต้องตัดสินใจ เราก็ควรที่จะเลือก เพราะอะไร จะเล่าเป็นภาพใหญ่ๆ ให้ฟังว่า การเลือกงานแบบไหนคือเป็นการเลือกงานที่ดี อันดับแรกเลยงานนั้นที่เราทำต้องไม่เหมือนเดิมเช่นถ้าเราเคยเป็นคนทำตามแผนงาน ไปสักหนึ่งปีสองปี พอเวลาผ่านไปเราก็จำเป็นต้องเลือกงานว่าทำยังไง เราควรจะต้องเป็นนักวางแผนงาน และไปเป็นผู้บริหารให้ได้ อย่าทำงานแบบเดิมซ้ำๆจนไปตัดโอกาสงานใหม่ๆ ของเราที่เราจะได้รับโอกาสนั้นแต่ในอีกมิติ
การไม่เลือกงานไม่ยากจน สำหรับคำนี้จะใช้กับตัวเองเวลาเราต้องการเริ่มทำอะไรใหม่ๆ สักหนึ่งอย่าง ตอนเริ่มต้นโดยส่วนใหญ่มักจะไม่มีโอกาสได้เลือก สำหรับคนที่เลือกนั้นคือคนที่ทิ้งโอกาสของตัวเองผมจะยกตัวอย่างให้ฟังว่าทำไมสำหรับผมตอนเริ่มต้นนั้นมักจะไม่เลือก
ผมจะบอกว่าตอนผมเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่ต้องการหาความรู้ให้มากใครสั่งงานอะไรที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายที่จะต้องไปให้ถึงผมก็ทำหมดโดยไม่สนผลตอบแทนอื่นๆ ถ้าเห็นภาพไม่ชัดเราลองมาคุยเรื่องการขายหมูปิ้งกัน แค่คิดแล้วผมเชื่อว่า หลายๆ คนคงคิดว่าเราแค่เสียบหมูปิ้ง ตั้งเตา หาทำเล แล้วขายได้เลย ผมจะบอกว่ามันก็ถูกไม่ใช่ทั้งหมดเมื่อวันใดเราลองเริ่มทำจริง
คุณลองคิดภาพดูอันดับแรกเลย คุณจะต้องเลือกเนื้อหมูส่วนไหนที่เอามาปิ้งขาย ไม่เท่านั้นสูตรวิธีการหมัก ต้องหมักแบบไหนให้อร่อย พอมาเสียบไม้ก็ต้องมาคำนวณอีกว่าจะเสียบหมูยังไงให้มีกำไรต้องได้กี่ไม้น้อยไปคนก็ไม่ซื้อ มากไปก็ขาดทุนอีก พอเสร็จก็ต้องหาทำเลขาย จะขายข้างทางหรือขายตลาดนัดก็มีส่วนของยอดขายทั้งหมด ไหนจะรถขนของ ตั้งเตาพร้อมขาย ย่างแบบไหนไม่ให้ไหม้และอร่อย สุดท้ายเรื่องเงินทอนที่คุณต้องเตรียมไปอีก
เห็นไหมว่า จากสิ่งที่เราคิด คิดว่าการขายหมูปิ้งไม่น่ายากแต่มีขั้นตอนมากมาย ฉันใด ก็ฉันนั้นการไม่เลือกงานในช่วงระยะแรกที่ต้องเรียนรู้กระบวนต่างการๆ เป็นสิ่งที่จำเป็น พอผ่านไประยะหนึ่งเราก็จำเป็นต้องเลือกงาน จากทำหมูปิ้งก็ต้องกลายมาเป็นการบริหารร้าน บริหารคน เป็นต้น