18ส.ค.

ตำแหน่งงานที่มีโอกาสถูกเปลี่ยนจากพนักงานประจำเป็นสัญญาจ้าง

ทำไมงานประจำอาจถูกเปลี่ยนเป็นงานสัญญาจ้าง?

ในยุคที่เทคโนโลยีและ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น หลายองค์กรเริ่มปรับโครงสร้างการทำงานเพื่อ ลดต้นทุน เพิ่มความยืดหยุ่น และลดภาระสวัสดิการของพนักงานประจำ
เหตุผลหลักที่ทำให้ตำแหน่งงานประจำอาจถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาจ้าง ได้แก่

  • ใช้บุคลากรเท่าที่จำเป็นในช่วงเวลาหนึ่ง
  • ใช้เทคโนโลยีทำงานแทนได้
  • จ้าง Outsource เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย

👉6 ตำแหน่งงานที่มีโอกาสสูงจะกลายเป็นสัญญาจ้าง

1. นักกฎหมายประจำสำนักงาน

ในอดีต การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากองค์ความรู้ด้านกฎหมาย เป็นองค์ความรู้เฉพาะกลุ่มที่ต้องเรียนมาเท่านั้น การจะหาข้อมูลต่างๆจึงทำได้ยากและยังมีคนที่รู้เรื่องกฎหมายน้อยอยู่ แต่ในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่เรียนด้านกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูลทางสื่อออนไลน์ที่เข้าถึงได้ตลอดเวลา หรือตัวอย่างกรณีการพิพากษาต่างๆที่ได้ถูกบันทึกไว้

และด้วยเหตุผลที่การพัฒนาด้านกฎหมายในการดำเนินกิจการต่างๆ ได้รับการปรับปรุงและนำมาปฏิบัติกันอย่างแพร่หลาย จึงทำให้โอกาสที่จะทำผิดทางกฎหมายน้อยลง และจากโอกาสที่จะเกิดข้อพิพาท หรือจำเป็นต้องใช้เรื่องของการทำงานด้านกฎหมายจะเปลี่ยนไปในกรณีที่เกิดปัญหาจริงๆ  และเป็นสาเหตุหนึ่งที่องค์กรอาจเลือก จ้างนักกฎหมายแบบโครงการ (Project-based) แทนการจ้างประจำ

2. พนักงานคีย์ข้อมูล

เนื่องจากในตอนนี้ ระบบซอฟต์แวร์หรือแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ถูกออกแบบมาให้ทำงานครั้งเดียวและจบได้เลย โดยการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบครั้งแรก แล้วหลังจากนั้นแพลตฟอร์มหรือซอฟต์แวร์ต่างๆ จะเป็นคนดำเนินการ จัดการกระบวนที่เหลือทั้งหมดจนจบ จึงไม่จำเป็นต้องมีพนักงานนำข้อมูลมาคีย์เข้าระบบเหมือนเมื่อก่อนอีก จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีพนักงานในแต่ละแผนกมานั่งคีย์ข้อมูลของตนเอง เช่น พนักงานฝ่ายขายก็ต้องมานั่งคีย์ข้อมูลของฝ่ายขาย พนักงานฝ่ายบัญชีก็ต้องเอาเอกสารด้านบัญชีมานั่งคีย์

โดยเฉพาะปัจจุบัน ความก้าวหน้าไปถึงขั้นที่มีซอฟต์แวร์ที่เอาเอกสารทั้งหมดสแกนเข้าไปแล้ว AI สามารถที่จะดึงข้อมูลจากแผ่นกระดาษกระจายเข้าสู่ฐานข้อมูลต่างๆ เปรียบเสมือนว่า มีคนคีย์ข้อมูลให้ตลอดเวลา จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจ้างพนักงานคีย์ข้อมูลเป็นพนักงานประจำอีกต่อไปในอนาคต งานคีย์ข้อมูลอาจเหลือเฉพาะในช่วง ปิดบัญชีประจำเดือนหรือสิ้นปี โดยจ้างเป็นสัญญาจ้างระยะสั้น

3. พนักงานขับรถประจำออฟฟิศ

พนักงานขับรถในบางตำแหน่งที่ไม่สำคัญ หรือพนักงานขับรถประจำออฟฟิศสำหรับใช้งานทั่วไป แต่ก่อนจะมีตำแหน่งนี้อยู่ที่ใช้สำหรับในการขับรถเพื่อจะเดินเรื่องหรือเอกสาร หรือไปติดต่องานต่างๆ ซึ่งในแต่ละวันอาจจะมีการทำงานไม่กี่ชั่วโมง เพราะแต่ก่อนระบบขนส่งมวลชนยังไม่เจริญเหมือนตอนนี้

โดยปัจจุบันมีบริการเรียกรถที่สะดวกและค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก และสามารถใช้เมื่อไหร่ก็ได้และเรียกใช้เท่าที่จำเป็น จึงไม่จำเป็นต้องเสียค่าจ้างพนักงานประจำเพื่อจะเตรียมใช้งานในบางโอกาส ระบบขนส่งและบริการเรียกรถ (Ride-hailing) มีความสะดวกและประหยัด ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีพนักงานขับรถสแตนบายตลอดเวลา องค์กรอาจเปลี่ยนเป็น จ้างรายครั้งตามความต้องการ

4. พนักงานทำความสะอาด

การจ้างพนักงานทำความสะอาดนั้นเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากเป็นตำแหน่งงานที่หาคนทำงานยากมากเพราะเป็นงานที่เหนื่อยมาก และเปรียบเสมือนเป็นงานที่ไม่มีเกียรติในสายตาของคนทั่วไป การจ้างงานพนักงานประจำเพื่อทำความสะอาดจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นและหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ในปัจจุบันมีบริษัทจำนวนมากที่รับจ้างทำความสะอาดให้กับองค์กรต่างๆ และสามารถทำงานได้อย่างมีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การจ้างพนักงานทำความสะอาดประจำ จึงมีโอกาสสูงมากที่จะเปลี่ยนเป็นการจ้างงานแบบมีสัญญาจ้าง และการจ้างแบบ เหมาสัญญา ยังช่วยเปลี่ยนผู้ให้บริการได้หากไม่พอใจผลงาน

5. พนักงานรักษาความปลอดภัย

พนักงานรักษาความปลอดภัย อาจจะยังมีความจำเป็นที่จะต้องจ้างอยู่ แต่อาจจะมีจำนวนน้อยลง เนื่องจากในปัจจุบัน มีบริษัทรักษาความปลอดภัยให้บริการอยู่ไม่น้อย หรือมีเทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยที่สามารถนำมาใช้ร่วมกับพนักงานประจำบางส่วนได้

จึงเป็นสาเหตุที่การจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอาจจะลดจำนวนลง และใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในส่วนที่สามารถทำแทนคนอื่นได้ เช่น การจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยเพื่อจะเดินตรวจตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เกิดความสิ้นเปลืองและเกิดความเหนื่อยล้าของพนักงาน ดังนั้น เมื่อมีเทคโนโลยีด้านกล้องวงจรปิดเข้ามา จึงทำให้การเดินตรวจตลอดเวลาไม่จำเป็นอีกต่อไป เพียงแค่นั่งประจำอยู่ที่ป้อมหรือห้องทำงาน ก็สามารถตรวจความปลอดภัยได้ ทำให้การจ้างพนักงานประจำตำแหน่งนี้มีโอกาสที่จะลดลงและเปลี่ยนเป็นสัญญาจ้างชั่วคราวแทน

6. พนักงานส่งเอกสาร (Messenger)

พนักงานส่งเอกสารของบริษัท ก็เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่อาจจะมีความจำเป็นที่เปลี่ยนจากการจ้างพนักงานประจำมาเป็นพนักงานสัญญาจ้างชั่วคราวแบบมีระยะเวลากำหนด ในอดีตนั้นการส่งเอกสารต่างๆ จำเป็นต้องมีพนักงานส่งเอกสาร หรือที่เรียกว่า Messenger เพื่อจะทำการส่งเอกสารของบริษัทจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง หรือกรณีที่พนักงานจะต้องไปวางบิลให้กับลูกค้า

ดังนั้น บางบริษัทจึงจำเป็นต้องมีพนักงานส่งเอกสารหรือ Messenger 2-3 คน เพื่อให้งานทั้งหมดสามารถกระทำได้โดยสะดวกและทันเวลา แต่ในปัจจุบันนั้น มีเทคโนโลยีต่างๆเข้ามา มีบริการด้านการส่งด่วนแบบจ้างครั้งเดียวจบ และการทำธุรกรรมด้านบัญชี เช่น การวางบิล หรือการเก็บเช็ค ลดความจำเป็นและลดจำนวนลง เนื่องจากทุกปัจจุบันสามารถส่งเอกสารทั้งหมดได้ทางอีเมล จึงทำให้การวางบิลหรือการไปเก็บเช็คมีความจำเป็นน้อยลง และไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานส่งเอกสารจำนวนมากเหมือนในอดีต และเป็นเน้นไปที่การจ้างงานแบบสัญญาจ้างแทนไม่ว่าจะเป็นสัญญาจ้างภายในหรือภายนอก

💬แนวโน้มในอนาคต: เกือบทุกตำแหน่งมีโอกาสถูกเปลี่ยน

ไม่เพียงแค่ 6 ตำแหน่งนี้ แต่แทบทุกงานมีโอกาสถูกปรับเป็น งานสัญญาจ้างหรือ Outsource เนื่องจากเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำงานแทนคนได้มากมาย โดยเฉพาะงานด้านการตลาดและคอนเทนต์ ซึ่ง AI สามารถผลิตเนื้อหาได้จำนวนมาก พนักงานอาจเหลือหน้าที่เพียงตรวจสอบและปรับแก้ผลงานก่อนเผยแพร่

💫สรุป

  • พนักงานควร Upskill และ Reskill เพื่อปรับตัวกับตลาดแรงงาน
  • องค์กรควรใช้ งานสัญญาจ้าง เพื่อควบคุมต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่น
  • ผู้ที่หางานควรเปิดโอกาสให้ตัวเองในตำแหน่ง สัญญาจ้าง เพราะอาจนำไปสู่การจ้างประจำในอนาคต

ค้นหางานสัญญาจ้างและงานประจำที่เหมาะกับคุณได้ที่ Orchidjobs.com