การทำงานแบบ Positive thinking
“Positive thinking” หมายถึง การมองสถานการณ์และความเชื่อในแง่บวก การสร้างและรักษาทัศนคติที่เชื่อมั่นว่าสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตมีแง่บวกและมีโอกาสดีๆ เสมอ การคิดแบบนี้ช่วยเสริมสร้างความเชื่อและความมุ่งมั่นที่จะดำเนินชีวิตไปในทิศทางที่เพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความสุขให้กับตัวเองและผู้อื่น โดยการคิดแบบนี้ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตใจและสุขภาพกาย
การคิดบวกมีผลในการเสริมสร้างความเชื่อในตัวเองและสามารถทำให้คนรู้สึกมั่นคงและมั่นใจในความสามารถของตัวเองมากขึ้น มันยังช่วยลดความเครียดและลดความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า โดยการมองแต่สิ่งที่ดี ๆ ในทุกสถานการณ์ แม้ว่ามันจะมีความยากลำบากบ้าง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้เรามีทัศนคติที่มั่นใจในการแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ การมีทัศนคติที่เชื่อมั่นและคิดในแง่บวกยังส่งผลต่อความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างในทางที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้เรามีชีวิตสังคมที่สมดุลและมีความสุขมากยิ่งขึ้นด้วย
เราลองมาดูว่าคนที่คิดบวก เขาทำกันอย่างไร
1. พยายามมองแง่บวกในทุกสถานการณ์ พยายามมองหาสิ่งที่ดีในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่ามันดูเป็นสิ่งที่ยาก ให้ลองมองหาโอกาสหรือเรียนรู้จากประสบการณ์นั้นแทนที่จะโฟกัสแต่ปัญหา
2. เน้นสิ่งที่คุณควบคุมได้ ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนหรือที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบาย ลองมองหาส่วนที่คุณสามารถควบคุมได้และโฟกัสที่ส่วนนั้น การมองเน้นที่สิ่งที่คุณสามารถทำเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์จะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจและมีพลังในการตัดสินใจและดำเนินชีวิตต่อไป
3. ใช้คำพูดบวก การใช้คำพูดบวก พูดแต่สิ่งดีเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ใช่ว่าจะตำหนิใครไม่ได้เลย เพียงแต่เลือกใช้คำพูดที่เหมาะสม ไม่ทำร้ายจิตใจผู้อื่น เพราะการพูดแบบลบ ๆ หรือการคิดลบส่งผลให้ความเชื่อและทัศนคติเป็นลบได้
4. รักษาสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญของคนที่คิดบวก ความสมดุลในชีวิตและการรับมือกับความเครียดอย่างเหมาะสม จะช่วยให้มีทัศนคติที่ดีต่อคนรอบข้างและตัวเอง
5. ฝึกการคิดดี เมื่อคุณมีความคิดเชิงลบเกิดขึ้น พยายามเปลี่ยนมุมมองของคุณโดยการพิจารณาความคิดเหล่านั้นและพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงมันให้เป็นบวก เช่น การใช้ข้อเท็จจริงและตั้งคำถาม เพื่อมองในหลายๆมุม
การฝึกฝนและพัฒนาการคิดในแง่บวกต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างต่อเนื่อง การเริ่มต้นด้วยการสร้างความตั้งใจที่จะมองโลกในแง่ดีและฝึกฝนตนเองให้มีทัศนคติที่เชื่อมั่นจะช่วยให้คุณเป็นคนที่คิดบวกได้ในที่สุด
แล้วเราสามารถนำการคิดบวก มองโลกในแง่ดี มาปรับใช้กับการทำงานได้อย่างไร
การคิดบวกในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุขและผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น นอกจากนี้ มันยังช่วยสร้างพลังงานและความกระตือรือร้นในการทำงานอีกด้วย
1. กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน การรู้ว่าคุณกำลังทำงานเพื่อวัตถุประสงค์อะไร จะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจและมุ่งมั่นในการทำงาน
2. โฟกัสสิ่งที่สามารถควบคุมได้ เมื่อเกิดปัญหาในการทำงาน คุณอาจเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด การโฟกัสสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ จะทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างราบรื่น
3. สร้างบรรยากาศ การสร้างบรรยากาศที่กระตือรือร้นและเชื่อมั่นจะส่งผลต่อสมรรถนะและความสุขของทีม แต่การรับฟังความคิดของคนอื่นก็ต้องดูในสถานการณ์ที่เหมาะสมด้วย และเมื่อคุณต้องแสดงความคิดเห็น ก็ต้องเลือกแสดงความคิดเห็นเชิงบวก
4. การให้คุณค่า ในการทำงาน การเน้นที่คุณค่าของงานและการพัฒนาตนเองเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อคุณเห็นคุณค่าในงานของคุณ มันจะส่งผลให้คุณรู้สึกมั่นใจและมีความสุขในการทำงาน
5. รักษาบาลานซ์ การรักษาบาลานซ์ระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันช่วยให้คุณมีความสุขและมีพลังในการทำงาน
การสร้างการคิดบวกในสถานที่ทำงานไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะกับตัวคุณเท่านั้น แต่ยังสร้างบรรยากาศที่ดีที่มีผลต่อประสิทธิภาพและผลการทำงานขององค์กรอีกด้วย
