fbpx
11เม.ย.

เทคนิคสัมภาษณ์งานผ่าน ZOOM ให้ดูมืออาชีพ คุยที่บ้าน แต่ได้งานแบบชิลๆ

ในยุคนี้หลายองค์กรก็เริ่มมีการปรับเปลี่ยนเรื่องวิธีการสัมภาษณ์งานให้เป็นการสัมภาษณ์แบบออนไลน์มากขึ้น เพิ่มความสะดวกสบาย ไม่ต้องเดินทางไปสัมภาษณ์ที่บริษัท หรือหากว่าวันนั้นมี Candidate หลายท่าน ก็ไม่ต้องไปนั่งรอสัมภาษณ์เป็นเวลานานๆ แถมบางคนไปก่อนเวลาเป็นชั่วโมงอีก ก็จะช่วยลดระยะเวลาตรงนี้ลงไปได้ แต่ความยากของการสัมภาษณ์งานแบบออนไลน์ก็มีเหมือนกัน อย่างแรกเลยคือเรื่องของการสร้าง First Impression อย่างที่ทราบกันดีว่าเวลาที่เราไปสัมภาษณ์งานที่บริษัท เราจะต้องเตรียมตัวเยอะมากทั้งเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม การวางตัว ท่าทาง การพูด ทั้งหมดก็เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์เห็นแล้วรู้สึกประทับใจ แต่พอมาเป็นการสัมภาษณ์งานออนไลน์ การสร้าง First Impression พวกนี้มันจะยากขึ้น เพราะเวลาสัมภาษณ์เขาก็จะเห็นเราแค่ในมุมแคบๆ นั่งอยู่ตัวเล็กๆ แบบนั้นบทความนี้จะมีแนวทางการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานแบบออนไลน์ ไม่ว่าเราจะสัมภาษณ์ที่บ้าน หรือไปนั่งที่คาเฟ่ มีอุปกรณ์หรือสิ่งที่ควรทำอะไรบ้าง ที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้ผู้สัมภาษณ์รู้สึกประทับใจ

ขั้นแรกอยากให้เช็คก่อนเลยว่า ทางบริษัทจะใช้โปรแกรมอะไรในการสัมภาษณ์ เพื่อเราจะได้เตรียมความพร้อมเรื่องโปรแกรมก่อน เพราะบางองค์กรก็อาจจะใช้ Zoom ใช้ Skype หรือว่าใช้ Line เราก็จะต้องเตรียมดาวน์โหลด ติดตั้งให้เรียบร้อย และทดสอบการใช้งานจริงก่อนด้วย เข้าไปดูว่าในโปรแกรมขึ้นสไลด์ยังไง สลับหน้าจอยังไง เพื่อถึงเวลาสัมภาษณ์จะได้ไม่มีปัญหาตะกุกตะกัก กดผิดกดถูก

ทีนี้เราจะมาดูเรื่องภาพกันบ้าง ปัญหาที่พบเจอบ่อยๆ ก็คือกล้องที่ติดมากับโน้ตบุ๊ค เวลาที่สัมภาษณ์หรือคุยงานผ่านโน้ตบุ๊ค สังเกตมั้ยว่าภาพมันจะเบลอๆ ไม่ชัด มืดๆ ดำๆ จะไปคุยผ่านไลน์แทน ก็จอเล็กเหลือเกิน ไม่ถนัด ออร์คิดจ๊อบจึงนำเทคนิคการสัมภาษณ์งานในโน้ตบุ๊ค แต่ใช้ภาพจากกล้องมือถือแทน ทำยังไงไปดูกัน

วิธีนี้คือการใช้กล้องมือถือถือเป็น Webcam แทน และง่ายตรงที่เชื่อมต่อได้เลย ไม่ต้องเสียบสายอะไรให้ยุ่งยาก โดยก่อนใช้งานต้องโหลดแอปมาลงในเครื่องโน้ตบุ๊คก่อน ชื่อว่าแอป iriun webcam ซึ่งไปเสริชหาใน google ได้เลย พอโหลดในโน้ตบุ๊คเสร็จปุ๊บ ก็มาโหลดไว้ในมือถือเหมือนกันเลย ชื่อเดียวกัน หาได้จากใน App Store, Play Store ได้เลย สิ่งสำคัญก็คือทั้งโน้ตบุ๊ค แล้วก็มือถือจะต้องใช้อินเตอร์เน็ตเครือข่ายเดียวกัน ถึงจะสามารถเชื่อมต่อกันได้ พอมัน Connect กัน ภาพในมือถือ ก็จะมาอยู่บนจอโน้ตบุ๊ค ทีนี้เราก็หาขาตั้งมือถืออันเล็กๆ ซักอัน มาตั้งไว้ในมุมที่เหมาะสม หรือว่าใกล้ๆ กับ Webcam ในโน้ตบุ๊คของเราก็ได้ ทีนี้เราก็จะได้ภาพสวย คมชัด ดู Professional สุดๆ

ในส่วนของภาพอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือภาพพื้นหลัง

การหามุมที่เหมาะสมในการสัมภาษณ์งานก็สำคัญเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน ในคาเฟ่ต่างๆ เราควรจะต้องหามุมที่ไม่รก ดูสบายตา แล้วก็ดูเป็นส่วนตัว ไม่ใช่เรานั่งสัมภาษณ์อยู่เห็นมีคนเดินผ่านไปผ่านมาข้างหลังตลอดเวลา อันนี้ก็จะดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ แล้วก็จะเป็นการทำลายสมาธิของเราและผู้สัมสัมภาษณ์

แต่ถ้าใครบอกว่า พี่คะ ห้องหนูเล็กมากเลย มีแต่มุมวางของเต็มไปหมด อันนี้เราก็สามารถใช้ฟังก์ชั่นในโปรแกรมสัมภาษณ์ช่วยได้เหมือนกัน โดยปกติโปรแกรมสัมภาษณ์งานใน Platform ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น zoom google meet เขาจะมีฟังก์ชั่นเปลี่ยนภาพพื้นหลังให้เราอยู่แล้ว เราสามารถปรับพื้นหลังให้ดูเบลอๆ นิดนึงก็ได้ หรือจะเปลี่ยนภาพพื้นหลังให้เป็นรูปภาพต่างๆ แทนก็ได้ เราก็ลองเลือกภาพที่ดูคลีนๆ สว่างๆ ซักนิดนึง หรือให้ดูสบายตา แต่พยายามหลีกเลี่ยงภาพหรือ Filter ที่ดูฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งซักนิดนึง เพราะว่ามันอาจจะดูเล่นไปหน่อย เพราะฉะนั้นลองไปเลือก ไปกดเล่นกันดูได้ก่อนใช้งานจริง

มากันที่เรื่องของเสียงบ้าง

แนะนำให้ลองเทสเสียงจากไมค์ของเราก่อนสัมภาษณ์จริงทุกครั้ง ว่าเสียงดังพอดีมั้ย เสียงขาดๆ หายๆ มั้ย หรือว่าจะลองอัดเสียงจากในคอมของเราดูก่อนว่าเสียงที่ได้ชัดมั้ย โอเคมั้ย ติดเสียงรบกวนจากข้างนอกเยอะมั้ย ถ้าเราหาที่เงียบๆ ได้ก็จะโอเคมาก แต่ถ้าสมมุติว่าเราอยู่ในที่สาธารณะ เช่น ในคาเฟ่ หรือร้านอาหาร ที่มีเสียงรบกวนเยอะๆ ถ้าเราสัมภาษณ์โดยใช้เครื่อง Mac book เราสามารถเปิดโหมด Voice Isolation ช่วยได้ แต่ถ้าใครใช้คอม Window เกรทแนะนำให้โหลดโปรมแกรม Krisp ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ทุกแอปสื่อสารเลย ใช้ได้ทั้ง PC, MAC หรือติดตั้งในมือถือก็ได้ โดยเข้าไปโหลดได้ที่ Krisp.ai พอติดตั้งเอาไว้ในเครื่องของเราเรียบร้อยแล้ว เราก็แค่เข้าไป Set ไมโครโฟน และลำโพง ในโปรแกรมการประชุมของเราได้เลย แค่นี้เสียงรบกวนก็จะหายวับไปเลย ที่สำคัญอย่าลืมเทสก่อนใช้นะ

อีกเรื่องหนึ่งคืออินเตอร์เน็ต

มาอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องของอินเตอร์เน็ต ลองคิดดูนะถ้าสัมภาษณ์ไป เจอเน็ตหลุดเน็ตค้าง นอกจากจะสร้างความรำคาญให้กับเราและผู้สัมภาษณ์แล้ว คะแนนการเตรียมความพร้อมของเราอาจจะตกไปอยู่ในระดับล่างสุดก็ได้ เพราะฉะนั้น เช็คเรื่องอินเตอร์เน็ตให้ดี ถ้าอยู่ที่บ้านมันก็อาจจะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าเราอยู่ข้างนอก เราอาจจะต้องทดสอบเรื่องอินเตอร์เน็ตให้ดีก่อน สัญญาณดีมั้ย เสถียรหรือเปล่า รวมถึงเราจะต้องเช็คเรื่องแบตเตอร์รี่อุปกรณ์ของเราด้วย ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊คหรือมือถือ เพราะสัมภาษณ์ทีหนึ่งบางคนก็เป็นชั่วโมงอยู่นะ ไม่ใช่ว่าคุยๆ อยู่ เครื่อง Shut down อัตโนมัติ อันนี้ก็คือเครื่องดับไปพร้อมอนาคตของเราแน่นอน

แล้วมีเรื่องอื่นๆแนะนำไหม?

นอกจากเรื่องเทคนิคอุปกรณ์ที่แนะนำไปทั้งหมดแล้ว ก็จะยังมีดีเทลในเรื่องอื่นๆ ที่มองข้ามไม่ได้เช่นเดียวกัน เช่นเรื่องการแต่งกาย แนะนำว่าให้แต่งตัวเหมือนเรากำลังไปสัมภาษณ์งานที่บริษัท คือจัดเต็มได้เลย เสื้อผ้า หน้าผม ให้เราดูดีที่สุด ไม่ใช่ว่าสัมภาษณ์อยู่บ้านจะแต่งตัว ผมฟู ยังไงก็ได้ แบบนี้ไม่เอา เพราะ First Impression ก็ยังเป็นเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกอยู่ดี แล้วตอนสัมภาษณ์เราก็ต้องเปิดกล้อง เราสวยดูดีไว้ก่อน ก็ถือว่าเราได้แต้มนำแล้วนะ

อีกเรื่องหนึ่งคือการตรงต่อเวลา  ยิ่งเราไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง เราก็ยิ่งต้องตรงต่อเวลา อย่างน้อยก่อนสัมภาษณ์ 1 ชม. เราควรต้องอยู่หน้าคอมเตรียมความพร้อมแล้ว หรือกดเข้าไปในโปรแกรมก่อนการสัมภาษณ์ซัก 15 นาที – ครึ่งชม. เวลาผู้สัมภาษณ์เข้ามาเขาจะได้เห็นเรารออยู่ก่อนแล้ว ก็จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์ได้อีกทางหนึ่งด้วย

สิ่งที่แนะนำมาทั้งหมดในวันนี้คือการเตรียมความพร้อมในเรื่องของเทคนิคอุปกรณ์ เสื้อผ้าหน้าผมต่างๆ เพื่อให้เราดู Professional มากขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด อยากให้ทุกคนโฟกัสไปที่การตอบคำถามให้มากๆ เตรียมความพร้อมเรื่องข้อมูลทั้งข้อมูลของเราและบริษัท แล้วตอบด้วยความมั่นใจ แสดงให้เขาเห็นว่าเราอยากจะทำงานที่นี่จริงๆ แล้วเอาเรื่องเทคนิคอุปกรณ์ แสง สี เสียง ที่แนะนำไป มา Support ให้ตัวเราดูดีมากขึ้น เพียงเท่านี้การสัมภาษณ์ออนไลน์ให้ได้งานก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป