Office Frogging Trend ทำไมคนรุ่นใหม่เปลี่ยนงานบ่อย?
สิ่งนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นรุนแรงมากในปัจจุบัน แต่ถ้ามองในความเป็นจริงแล้ว สิ่งนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เคยเกิดขึ้นมานานแล้วในทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่จำนวนของปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตมีน้อยและไม่ได้มีบ่อยมากเหมือนในปัจจุบันที่มองเห็นได้ชัดเจน
เรามาดูกันว่า สาเหตุที่ทำไมคนรุ่นใหม่เปลี่ยนงานบ่อย มาจากอะไรได้บ้าง
1. คนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาในยุคสมัยที่มีเทคโนโลยีและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คนรุ่นนี้จึงอาจจะมีความอดทนน้อยกว่าคนรุ่นก่อน เพราะตั้งแต่เขาเกิดมา ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ดังนั้น อะไรที่ชักช้าหรือทำให้ต้องรอคอยนาน จะทำให้เขารู้สึกว่ามันทำให้เขาเสียเวลาและเสียโอกาส อาจแตกต่างจากคนรุ่นก่อนที่กว่าจะได้แต่ละสิ่งแต่ละอย่างต้องใช้เวลารอคอยที่ยาวนาน จึงเห็นคุณค่าและเกิดความกังวลที่จะเปลี่ยนแปลงงานบ่อยๆเพราะทางเลือกอาจจะมีน้อย
2. การจ้างงานในยุคสมัยใหม่จะมีเรื่องของอายุงานเป็นหลัก หรือไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของความภักดีต่อองค์กร ด้วยการแสดงออกถึงอายุงานที่ยาวนานกับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง วัฒนธรรมจ้างงานตลอดชีวิตนั้นไม่มีอีกแล้วในองค์กรปัจจุบัน ในยุคสมัยปัจจุบัน ดังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจึงเกิดขึ้นเป็นเพียงเหตุเฉพาะหน้าและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่แปลกประหลาดสำหรับคนในยุคสมัยนี้

3. ความสามารถของคนรุ่นใหม่สมัยนี้ มีความสามารถที่สูงมาก เนื่องจากเติบโตมาด้วยเทคโนโลยี ความรู้ และนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งทำให้แนวความคิดของเขา มีความกว้างขวางไปจนถึงความฟุ้งซ่าน และความสำเร็จของคนในรุ่นนี้ แม้จะมีน้อยในความเป็นจริงแต่เมื่อ มีกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จ มันจะเป็นความสำเร็จที่ทรงพลังและมีความยิ่งใหญ่มากกว่าความสำเร็จของคนรุ่นเก่าในอดีต จึงทำให้คนรุ่นใหม่ มองเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นโอกาส เป็นไปได้และมีความยิ่งใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องรอคอยนานเกินไป
4. การสื่อสารในยุคปัจจุบันมีความทันสมัย กว้างไกล และทันเวลา สามารถตรวจสอบความเป็นจริงได้ทันที จึงทำให้สิ่งที่ถูกนำเสนอในปัจจุบัน เกี่ยวกับ ความสำเร็จของคนในยุคปัจจุบันนั้น สามารถเข้าถึงได้ง่ายและเชื่อถือได้ว่ามีความเป็นจริง เนื่องจากเป็นสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ในโลกของดิจิทัล ที่นำมาเล่าสู่กันฟังอย่างง่ายดายผ่านสื่อต่างๆ ได้ตลอดเวลา ดังนั้น การเข้าถึงความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ที่ยิ่งใหญ่จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เหมือนว่ามีความเป็นไปได้และเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องยากเกินเกินไป
5. การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ต้นทุนสูงมากเหมือนในยุคอดีต ที่จะจัดตั้งบริษัทขึ้นมาสัก 1 บริษัท จำเป็นต้องมีทั้ง ที่ทำงาน อุปกรณ์ต่างๆ ครบครัน ทีมงาน สถานที่จอดรถ และอื่นๆอีกมากมาย ในขณะที่ปัจจุบันนั้น มีเพียงแค่ คอมพิวเตอร์ 1 เครื่องกับ อินเทอร์เน็ต ก็สามารถจะเริ่มทำธุรกิจได้แล้วด้วยตัวลำพังคนเดียว ด้วยเงินทุนที่ไม่มากมายนักในการที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจ จึงทำให้คนรุ่นใหม่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทำงานในองค์กรที่นานเกินไป หรือเป็นแค่ทางเลือกเดียวในชีวิตที่จะต้องดำเนินชีวิตด้วยการทำงานในองค์กรที่ยาวนานและต่อเนื่องเพื่อความมั่นคง เพราะในปัจจุบันนั้นคำว่า ” Job Security ” ไม่มีต่อไปแล้ว

6. ความซื่อสัตย์ต่อองค์กรในยุคปัจจุบัน ไม่ได้ถูกให้คุณค่า หรือ ให้ความสำคัญมากเหมือนในอดีต เนื่องจากปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงอยู่ตลอดเวลา มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีการแย่งชิงอยู่ตลอดเวลาที่เข้มข้นและดุเดือดกว่าในอดีตมากนัก การแข่งขันต่อสู้ต่างๆ จึงเป็นลักษณะของการแข่งขันวันต่อวัน จนไปถึง ชั่วโมงต่อชั่วโมง ดังนั้น ความซื่อสัตย์ต่อองค์กรในลักษณะการทำงานมายาวนาน แต่ด้อยประสิทธิภาพ หรือศักยภาพในการสร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจนในระยะเวลาสั้นนั้น จะไม่ใช่เกราะคุ้มกันอีกต่อไป เพราะการวัดผลงานในปัจจุบัน เน้นที่ผลลัพธ์ ชั่วโมงต่อชั่วโมง โดยไม่สนใจเรื่องของอายุงานจะยาวนานแค่ไหน ซึ่งในปัจจุบันการแข่งขันเน้นผลลัพธ์ปัจจุบันมากกว่าผลลัพธ์ระยะยาว
7. การขาดแคลนบุคลากร เนื่องจากธุรกิจมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในทุกมิติ ในขณะที่บุคลากรมีไม่เพียงพอ หรือมีบุคลากรที่มีคุณสมบัติ หรือความสามารถตามที่ต้องการมีน้อยเกินไป ในสถานการณ์ที่แข่งขันมีสูงมาก การแย่งตัวพนักงานหรือบุคลากรที่มีความสามารถ จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อจะทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ทันเวลาและอยู่รอดได้ จึงเป็นเหตุให้การเปลี่ยนงานทำได้ง่าย และได้รายได้ที่สูงมาก เนื่องจากมีความต้องการบุคลากรสูงมาก จึงจำเป็นต้องมีการจ่ายผลตอบแทนให้สูง เพื่อดึงดูดให้บุคลากรย้ายงานมาเพื่อมาช่วยขยายกิจการของบริษัท แม้ต้นทุนจะสูงแต่เทียบกับโอกาสที่บริษัทจะได้อยู่รอด แข่งขันและเติบโตได้ ก็ถือว่ายังคุ้มค่า ดังนั้น อัตราค่าจ้างจึงสูงมากในการใช้งานแต่ละครั้งเมื่อถูกดึงตัว
การจะดูแลบริหารจัดการพนักงานที่มีโอกาสที่จะเกิดลักษณะ Office Frogging เราควรจะมีการวางแผนบริหารจัดการอย่างไร?
1. เมื่อจะมีการจ้างพนักงานที่มีแนวโน้มจะเป็นลักษณะดังกล่าวมาทำงานสิ่งที่ต้องทำสิ่งแรกก็คือ ต้องสัมภาษณ์ให้ทราบถึงแรงบันดาลใจและจุดมุ่งหมายปลายทางของเขา ว่าเขาต้องการทำอะไรถ้าบางคนมีแนวโน้มที่จะเป็นเจ้าของกิจการ มั่นใจได้เลยว่าเขาจะไม่อยู่องค์กรใดองค์กรหนึ่งเป็นเวลานาน เพราะเขาจะเปลี่ยนงานอยู่ตลอดเวลา เพื่อหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เขาต้องการ ให้ครบสมบูรณ์แบบตามที่เขาคิดว่าเขาควรจะมีพร้อม ก่อนที่จะเริ่มทำธุรกิจของตนเอง ดังนั้น อายุงานของคนกลุ่มนี้ จึงไม่ยาวนานแน่นอน ไม่ต่อเนื่องแน่นอน แต่เราสามารถใช้ศักยภาพของเขาเท่าที่มีอยู่ในช่วงเวลาที่เรามีอยู่ให้เต็มที่ภายใต้ค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายให้เขาตามความสามารถที่เราประเมิน
2. พนักงานกลุ่มนี้จะเน้นที่ผลตอบแทนเป็นหลัก หมายความว่า เขาเชื่อว่า เขาสามารถจะเปลี่ยนงานแล้วเพิ่มเงินเดือนได้ง่ายเมื่อเขาต้องการ การบริหารจัดการเรื่องผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนบวกกับโบนัสพิเศษที่จะได้จัดการทำโครงการจนสำเร็จ จึงเป็นแนวคิดหนึ่งในการรักษาคนเหล่านี้ไว้ได้ ตั้งแต่เริ่มโครงการจนกระทั่งโครงการเสร็จเรียบร้อย เพราะการให้โบนัสหลังจากที่โครงการสำเร็จ จะทำให้เขาอยู่กับบริษัทไปจนจบโครงการ แล้วเมื่อเขาได้โบนัสแล้ว เขาก็จะเปลี่ยนงานทันที หากโบนัสที่ให้ไปมีมูลค่าสูงมาก จะทำให้เขาเปลี่ยนงานยากขึ้น เนื่องจา เขาจะต้องขอเงินเดือนเพิ่มมากขึ้น เมื่อรวมกับโบนัสแล้ว จะทำให้ที่ใหม่ เกิดความลังเลใจที่จะจ้างเขาในอัตราที่แพงขนาดนั้น

3. หากเขาเป็นคนที่มีศักยภาพสูงจริงๆ บริษัทอาจจะต้องมองล่วงหน้าไปถึงช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ว่าความสามารถของเขานั้น ถึงระดับที่สามารถเป็นผู้นำองค์กรเล็กๆ ได้หรือไม่ หากเป็นไปได้ บริษัทอาจจะมีการวางแผนในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ที่จะแตกเป็นบริษัทย่อยลงไปในสเกลที่เล็กๆ เพื่อให้เขาเป็นผู้นำองค์กร และมีส่วนร่วมในการเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งจะทำให้เขาอยู่กับบริษัทไปอีกนานและไม่คิดที่จะเปิดบริษัทของตนเอง แต่สามารถมีบริษัทของตนเองได้ภายใต้การลงทุนขององค์ที่พร้อมเรื่องเงินทุน ส่วนนี้ จะเป็นการขยายธุรกิจ และ รักษาคนที่มีความสามารถให้อยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน เป็นการได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ภายใต้การสร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงต่อเนื่อง และสนับสนุนกับธุรกิจเดิม
4. อาจจัดให้มีการเซ็นสัญญาก่อนเริ่มดำเนินงานหรือทำงานกับบริษัท ว่าจะไม่ย้ายไปทำงานในบริษัทคู่แข่ง หลังจากออกจากบริษัทไปแล้วอย่างน้อย 2 ปี หรือไม่เปิดบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่คล้ายกัน จนมากลายเป็นคู่แข่งภายใน 2 ปี หลังจากที่ออกจากองค์กรไปแล้ว สิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้ตรวจสอบในเบื้องต้นได้ว่าพนักงานที่เรากำลังจะว่าจ้างนั้น มีแนวคิดในการที่จะออกไปเปิดบริษัทแบบเดียวกับเราหรือเปล่า และ การมาทำงานที่นี่เพียงเพื่อจะหาความรู้ประสบการณ์และเก็บข้อมูลบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฐานลูกค้า หรือเทคโนโลยี หรือ know How ที่เกี่ยวกับการทำงานในส่วนนี้ หากพนักงานยินยอมเซ็นเราก็สบายใจได้ระดับหนึ่งว่า พนักงานอาจจะไม่คิดที่จะเปิดบริษัทของตัวเอง หรือ ไม่คิดที่จะไปอยู่บริษัทคู่แข่ง หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ตรงนี้ เพื่อจะเรียกร้องเงินเดือนเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่มีการการันตีว่า พนักงานไม่คิดจะทำจริง ๆ เพราะการเซ็นสัญญาบางครั้ง เป็นเพียงแค่ให้ได้งานทำในเบื้องต้นก่อนเท่านั้น

Office Frogging ไม่ใช่ปัญหา…แต่เป็น “ความจริงใหม่” ของตลาดแรงงานยุคนี้
ปรากฏการณ์ Office Frogging หรือการเปลี่ยนงานบ่อยของคนรุ่นใหม่ อาจดูเป็นปัญหารุนแรงในสายตาองค์กร แต่แท้จริงแล้ว นี่คือผลลัพธ์ที่เกิดจาก โครงสร้างเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และความคาดหวังของโลกการทำงานที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่พฤติกรรมเฉพาะเจนของคนรุ่นใหม่เพียงเท่านั้น
คนยุคนี้เติบโตมาพร้อมเทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว โอกาสที่หลากหลาย และวัฒนธรรมการทำงานที่ไม่ยึดติดกับ “การอยู่ที่เดิมนาน ๆ” อีกต่อไป ขณะที่ธุรกิจเองก็แข่งขันกันหนักจนต้องแย่งตัวคนเก่งด้วยค่าตอบแทนสูง การโยกย้ายงานจึงเป็นเรื่องปกติและมองเห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม
ดังนั้น สิ่งสำคัญไม่ใช่การตำหนิคนรุ่นใหม่ว่า “ไม่มีความอดทน” แต่คือการที่องค์กรต้องปรับตัวให้ทัน
- รู้จักบริหารศักยภาพคนที่อยู่นานสั้นไม่เท่ากัน
- สร้างข้อเสนอคุณค่าที่ดึงดูดคนเก่ง
- วางแผนใช้ประโยชน์จากพนักงานในระยะเวลาที่เขาพร้อมให้
- ออกแบบระบบผลตอบแทนและโอกาสเติบโตให้ชัด
- และมองอนาคตเผื่อ 3–5 ปีว่าใครสามารถเป็นผู้นำรุ่นใหม่แทนเราได้
เมื่อองค์กรเข้าใจธรรมชาติของแรงงานยุคใหม่มากขึ้น Office Frogging จะไม่ใช่ “ปัญหาที่ต้องกลัว” แต่จะกลายเป็น โอกาสในการดึงศักยภาพคนเก่งมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับเราให้คุ้มค่าที่สุด
สุดท้าย โลกการทำงานไม่ได้เปลี่ยนเพราะคนรุ่นใหม่เพียงฝ่ายเดียว—แต่เพราะ โลกทั้งใบกำลังเปลี่ยนไปพร้อมกัน และคนที่ปรับตัวได้ก่อน คือคนที่ชนะในระยะยาวเสมอ.






