fbpx
24พ.ค.

How to เพิ่มความมั่นใจ ให้น้องๆ เด็กจบใหม่ ไปเริ่มงานวันแรก

การเริ่มงานวันแรกของน้องๆ ที่เพิ่งจบใหม่ เป็นใครก็ต้องตื่นเต้นถูกไหม เพราะว่าการเริ่มงานที่แรก มันก็คือการที่เราต้องเปลี่ยนสังคมที่เราคุ้นเคย จากเพื่อนๆ ที่สนิทกันเป็นกลุ่มๆ ในมหาวิทยาลัย เราก็ต้องออกมาเจอสังคมที่กว้างขึ้น เจอสิ่งใหม่ๆ เจอผู้คนมากหน้าหลายตา การทำงานวันแรกก็จะเป็นวันที่เรารู้สึกประหม่า ตื่นเต้น ไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เขาจะต้อนรับเราไหม หรือเราจะต้องปรับตัวยังไง

💜 ข้อแรก ของการไปเริ่มงานวันแรกออร์คิดจ๊อบอยากให้ทุกคนตั้งสติให้ดีก่อน เพราะว่าการที่เราไม่รู้นี่แหละ ที่ทำให้เราฟุ้งซ่าน คิดไปเองว่าเราจะเจอสถานการณ์แบบนั้นแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกกลัวและก็ประหม่า สิ่งที่เราจะต้องจัดการก่อนก็คือความคิดของตัวเอง เราจะต้องยอมรับว่าเราจะต้องออกไปเจอผู้คนที่หลากหลาย จะต้องเจอคนที่คิดไม่เหมือนเรา จะต้องมีคนมองว่าเราเป็นเด็กทำอะไรไม่เป็น เยอะแยะมากมาย แต่ถ้าเราเปิดใจตั้งแต่แรก ยอมรับและเข้าใจว่ายังไงเราก็ต้องพบเจอเรื่องแบบนี้ มันจะทำให้เราปรับตัวได้เร็ว

💜 ข้อสอง ด้วยความที่เรายังไม่เข้าใจว่าโลกของการทำงานมันเป็นยังไง จะต้องเจออุปสรรคอะไร พอเข้าไปทำงานจริงๆ แล้วเจอสิ่งนั้น เราจะแยกไม่ออกว่ามันเป็นเรื่องปกติ หรือผิดปกติ เพราะไม่เคยเจอมาก่อน ข้อควรระวังสำหรับเด็กจบใหม่ก็คือ พอเราเจออุปสรรคปุ๊บ เราจะให้น้ำหนักกับสิ่งนั้นมากจนเกินไป น้องๆ หลายคนถึงกับเครียด ทำงานไม่ได้ ต้องหนีไปร้องไห้ในห้องน้ำก็มี ออร์คิดจ๊อบแนะนำแบบนี้นะ เวลาที่เราเข้าไปทำงานวันแรกๆ เนี่ย ให้เราหา ”เมนเทอร์” ซึ่งหลายๆ บริษัทเขาก็จะมีให้อยู่แล้ว คือเราเข้าไปปุ๊บ จะมีคนคอยประกบเลย เพื่อให้เรารู้ว่าจะต้องทำอะไร 1 2 3 4 แล้วถ้าเจอปัญหา เราจะต้องไปหาใคร น้องๆ ที่มีเมนเทอร์ หรือว่าคนที่คอยดูแลสอนงานเราเนี่ย จะสามารถปรับตัวในที่ทำงานได้ดีและเร็ว มากกว่าคนที่เข้าไปแล้วต้องเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง การมีเมนเทอร์จะทำให้เรามั่นใจมากขึ้น

💜 ข้อสาม ในฐานะที่เราเป็นเด็กใหม่ เราควรจะเสนอตัวในการทำงาน ‘ว่าเรื่องนี้หนูขอทำได้มั้ยคะ’, ‘เรื่องนี้ผมขอช่วยได้มั้ยครับ’ ยิ่งถ้าเราถนัดในเรื่องนั้นๆ อยู่แล้ว มันก็จะเป็นโอกาสให้เราได้แสดงฝีมือ ทำให้คนอื่นเห็นว่าเราทำสิ่งไหนได้ดี และเขาควรจะใช้ฟังก์ชั่นไหนของเราให้เหมาะสมกับงานที่มี  ไม่ใช่ว่าเห็นเราเป็นเด็ก แล้วจะใช้ให้เราทำเอกสารอย่างเดียว แบบนี้เราก็จะไม่ได้อะไรเลย เพราะฉะนั้น แสดงตัว บอกเขาไปเลยว่าเราเก่งเรื่องอะไร

💜 ข้อสี่ ข้อนี้สำคัญมาก พยายามหา Small Win ของตัวเองให้เจอ Small Win คืออะไรก็ได้ เรื่องเล็กๆ ที่เราทำแล้วประสบความสำเร็จ เช่น วันนี้เราอาจจะตั้ง To do list เอาไว้ 20 ข้อ แล้วเราทำได้ครบทั้ง 20 ข้อเลย  แบบนี้ก็คือ Small Win หรือว่าจะเป็นการทำ Project เล็กๆ ให้สำเร็จขึ้นมา ทำแล้วเพื่อนชอบ หัวหน้าชม แบบนี้ก็เรียกว่าเป็น Small Win เหมือนกัน  แล้วยิ่งถ้าเราเก็บความสำเร็จเล็กๆ แบบนี้ ให้ได้ภายใน 2-3 เดือนแรก เราจะเป็นคนที่มีความมั่นใจมากขึ้น และเป็นคนที่มีเป้าหมายอยู่ตลอดเวลา การทำงานในแต่ละวันมันก็จะรู้สึกสนุกแล้วก็ท้าทาย 

💜 ข้อที่ห้า ข้อนี้ Basic มากเลย อย่าไปสายเด็ดขาด ไม่ใช่ว่ากลัวโดนหักเงินหรืออะไรนะ แต่การที่เราไปถึงก่อนคนอื่น เราจะไม่ลนลาน ลองคิดสภาพว่าเราเป็นเด็กใหม่ แล้ววิ่งเข้าห้องประชุมเป็นคนสุดท้าย มันจะลนลาน ทำตัวไม่ถูก คิดอะไรไม่ออก เพราะฉะนั้น เราควรไปถึงก่อนเวลาอย่างต่ำ 30 นาที เพื่อให้เราได้มีเวลาทำสมาธิ คิดเป็นขั้นเป็นตอน ว่าเดินเข้าไปแล้ว จะต้องไปหาใคร นั่งรอตรงไหน หรือจะต้องทักทายคนอื่นยังไง คิดให้เป็น Step by Step นิ่งเข้าไว้ เพื่อให้คนอื่นเห็นว่า โอเค เราพร้อมทำงานแล้วนะ

🔷 แถมให้อีกนิด พอเราเข้าไปเป็นเด็กใหม่ เริ่มงานวันแรก ให้พยายามเข้าหาคนอื่น เข้าไปชวนคุย ทักทาย กับพนักงานหลายๆ คน หลายๆ ฝ่าย เพื่อเป็นการแนะนำตัวเองว่าเราเข้ามาใหม่นะ อยู่แผนกไหน เผื่อเวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ เราจะได้ไม่รู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ที่จะเข้าไปหาเขา และที่สำคัญคือ การที่เรารู้จักคนเยอะ เราจะสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรได้เร็ว และสามารถปรับตัวได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

การเข้าสู่โลกการทำงานของเด็กจบใหม่ไปเริ่มงานวันแรก จริงๆ ไม่ยากอย่างคิดนะ แต่น้องๆ หลายคน อาจจะกลัวแล้วก็ประหม่ากันไปก่อน เพราะมันคือโลกที่เราไม่รู้จัก สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ปรับตัวให้เร็ว เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ออร์คิดจ๊อบเป็นกำลังใจให้นะคะ