อยากเป็น UX/UI Designer ต้องรู้อะไรบ้าง?
UX-UI Designer มีหน้าที่ในการออกแบบโครงสร้างของซอฟต์แวร์ และออกแบบวิธีการใช้งาน ให้สะดวก ง่าย และรวดเร็ว โดยธรรมชาติแล้ว ตำแหน่งงานของ UX designer กับ UI designer จะมีความแตกต่างในหน้าที่การงานอย่างชัดเจนในต่างประเทศ จะแยก 2 ตำแหน่งนี้ ออกจากกันอย่างชัดเจน เพราะการทำงานจะไม่เหมือนกัน แต่ในประเทศไทยส่วนใหญ่ มักจะจ้าง UX และ UI ดีไซเนอร์เป็นคนๆเดียวกัน เพื่อให้ง่ายๆ ในการทำงาน
UX designer คือคนที่ต้องทำหน้าที่ ศึกษาพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ Application ต่างๆ ว่ามีพฤติกรรมอย่างไร เพื่อให้เข้าถึงแนวทางในการออกแบบซอฟต์แวร์ ให้เกิดประสบการณ์การใช้งานโดยตรงของลูกค้าเป็นไปตามทิศทางที่เรากำหนด ซึ่งได้มาจากการศึกษาพฤติกรรมการใช้ หรือพฤติกรรมของผู้บริโภค ในกลุ่มเป้าหมายที่เราจะผลิตซอฟต์แวร์ตัวนั้นออกไปให้ใช้งาน
💻สิ่งที่คนที่จะเป็น UX designer ควรจะต้องรู้ คือ
1. ความรู้ทางด้านจิตวิทยา
เพราะสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคว่า มีลักษณะการใช้งานอย่างไร ซึ่งสิ่งนั้นจะนำไปสู่ประสบการณ์ในการใช้งานของซอฟต์แวร์ ที่เราจะผลิตออกไป ซึ่งจะมีผลกับการสร้างยอดขาย เพราะหากประสบการณ์ในการใช้งานไม่ดี ย่อมทำให้ผู้บริโภคไม่พึงพอใจ และไม่ใช้งานซ้ำ หรือเลือกที่จะไม่ใช้งานซอฟต์แวร์ตัวนี้ต่อไป เป็นครั้งที่ 2 ทำให้เกิดความเสียหายในเรื่องของการขายสินค้าที่
2. ความรู้ด้าน Graphic
ต้องเป็นคนที่มีความรู้เรื่อง Font, Color, Shape, Graphic เพราะจะเป็นงานที่จะต้องทำการออกแบบ ให้เกิดความดึงดูดในการใช้งาน รู้สึกผ่อนคลายทำให้เกิดประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเมื่อสำเร็จแล้ว
3. ความรู้ด้านฟังก์ชั่นดีไซน์
ต้องเป็นคนที่มีความรู้ในเรื่องของการออกแบบการใช้งาน หรือที่เรียกว่า ฟังก์ชั่นดีไซน์ จากการที่ได้เรียนรู้ เรื่องของประสบการณ์ของลูกค้า หรือพฤติกรรมผู้บริโภคแล้ว จะทำให้การ ออกแบบฟังก์ชันตอบสนองความต้องการใช้งาน และสร้างประสบการณ์ที่ดีได้
4. ต้องรู้จักเครื่องมือ
ที่จะต้องมาใช้งานอย่างดี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กันทั่วไป อย่างเช่น Figma Adobe xd
5. ต้องมีแนวทางพัฒนา
ต้องรู้ว่า ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน และต้องรู้ว่า จะมีการสื่อสารกันในรูปแบบใด และอะไรคือ สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากใช้งาน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานจากความพึงพอใจในการใช้งาน ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกอย่างไรจากการใช้งาน ยกตัวอย่าง เช่นแนวทางใหม่ ในการฟังดนตรี พฤติกรรมผู้บริโภคสมัยใหม่ มีแนวโน้มในการฟังดนตรีอย่างไร
ในอดีต อาจจะเป็นลักษณะของการเปิดวิทยุหรือเครื่องเสียง แล้วหมุนหาคลื่นไปเรื่อยๆ หรือเลือกแผ่นซีดี เพื่อจะมาใส่ในเครื่องเล่นแผ่นเสียงแล้วก็นั่งฟัง แต่ในยุคปัจจุบันแล้วประสบการณ์การฟังเพลง อาจจะเปลี่ยนไป มีหูฟัง 1 เครื่อง มีการค้นหาเพลงได้เพียงปลายนิ้วมือสัมผัส และสามารถกดฟังได้ทันที อันนี้เรียกว่า ประสบการณ์ในการใช้งานจาก Software ที่เราออกแบบมาให้ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ไม่ถึง 3 ครั้ง ก็สามารถเข้าถึงสิ่งที่ต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ
6. มีทักษะการจัดการข้อมูล
ต้องเป็นคนที่สามารถรวบรวมข้อมูลทั้งหมดจากทุกๆคนที่อยู่ในทีมงาน แล้วสรุปออกมาเป็นแนวความคิดรวบยอด นำไปเป็นธงในการออกแบบโครงสร้างทั้งหมด เพื่อตอบสนองประสบการณ์ ที่เราต้องการให้เกิดขึ้นกับลูกค้าจากการใช้ซอฟต์แวร์ตัวนี้ หลังจากที่ซอฟต์แวร์ได้ถูกผลิตออกมาแล้ว
7. ทำ Workshop เป็น
ต้องเป็นคนที่มีความสามารถในการทำ workshop เพราะการเป็น UX designer นั้น จะต้องเป็นผู้นำในการรวบรวมข้อมูลจากทุกฝ่าย แล้วนำมาหล่อหลอมให้เป็นข้อมูลรวบยอดที่เข้าใจตรงกันหมดทั้งบริษัท ตรงกันหมดกับทุกๆแผนก ที่จะต้องทำงานในส่วนของตนเอง แล้วมาประกอบกันเป็นภาพใหญ่ในท้ายที่สุด
8. มองภาพรวม
ต้องเป็นคนที่สามารถมองเห็นภาพรวม ที่เป็นภาพใหญ่ของปัญหาทั้งหมด ของโครงการนั้นได้
9. ต้องเป็นผู้ฟังที่ดี
เพราะการที่จะเป็นคนสร้างแนวคิดรวบยอดจากความแตกต่างของความต้องการ ความเชื่อ และประสบการณ์ที่แตกต่างกันของแต่ละแผนกนั้น จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าหากไม่ใช่ผู้ที่มีทักษะในการฟังที่ดี สามารถจับประเด็นได้ สามารถมองเห็นความต้องการที่ซ่อนเร้นของแต่ละส่วนได้
10. สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ต้องเป็นคนที่มีความอดทนสูง
เพราะในการที่จะเป็นคนกลาง ท่ามกลางความเห็นที่แตกต่าง ความต้องการที่แตกต่าง ประสบการณ์ที่แตกต่าง ความเชื่อที่แตกต่าง องค์ความรู้ที่แตกต่างนั้น จะต้องเป็นคนที่มีความอดทนสูงมาก ที่จะต้องรองรับความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ หรือการต่อต้านจากการทำงานเป็นทีม และเป็นคนที่เป็นหัวใจของโครงการในการแจกจ่ายงานไปสู่แผนกอื่นๆ หรือคนที่ต้องรับงานไปทำต่อในส่วนที่เหลือ UI designer เป็นผู้ที่จะทำหน้าที่นำข้อมูล แนวทางโครงสร้างพื้นฐานที่ UX Designer เป็นคนกำหนดขึ้นมาไปต่อยอดสร้างรูปแบบการใช้งานที่สัมผัสโดยตรงกับลูกค้าผู้ใช้งาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะเป็นลักษณะของการนำเสนอ ภาพที่มองเห็นจับต้องได้ ว่าจะใช้งานอย่างไร โดยสิ่งที่ใช้งานทั้งหมดนั้น เป็นเพียงหน้าฉากที่ลูกค้าจะมองเห็นได้ ใช้งานได้ แต่อยู่ภายใต้เบื้องหลัง ที่ถูกออกแบบไว้แล้วด้วย US designer ให้ลูกค้าได้เกิดประสบการณ์ตรงตามที่กำหนดไว้
💻ลักษณะงานของ UX-UI Designer
1. ลักษณะงานที่เกี่ยวกับสิ่งที่มองเห็นและจับต้องได้
ลักษณะงานที่เกี่ยวกับสิ่งที่มองเห็นและจับต้องได้ที่ UI designer จะต้องทำ ยกตัวอย่างเช่น ปุ่มต่างๆในไมโครเวฟ จะมีปุ่มอะไรบ้าง อยู่ที่ตำแหน่งใดบ้าง ปุ่มไหนต้องอยู่บน อยู่ล่าง อยู่กลาง ปุ่มไหนที่ต้องใช้แบบลูกบิดหมุน ปุ่มไหนที่ใช้แบบสวิตซ์เปิดปิด ปุ่มไหนที่ใช้แบบมือกดเข้ากดออก นี่คือ ลักษณะงานของ UI design ที่จะต้องออกแบบมาให้ลูกค้าใช้งานคล่อง ใช้งานง่ายสะดวก และพึงพอใจ
2. การออกแบบที่ชัดเจน
ภาพที่มองเห็นต้องชัดเจน การออกแบบ Application ต่างๆนั้น มุมซ้ายบนควรจะเป็นลักษณะฟังก์ชันการใช้งานอย่างไร มุมขวาบนควรจะเป็นอย่างไร ตรงกลางควรจะมีลักษณะอย่างไร ความยาว ความกว้าง ความสูง ของกลุ่มต่างๆ ควรจะเป็นเช่นไร ให้เกิดความสะดวกกับมือของคนที่ถนัดขวา สิ่งนี้เป็นหน้าที่ของ UI designer ที่ต้องออกแบบให้การใช้งานถูกวางไว้ให้ลูกค้าพึงพอใจ และเกิดประสบการณ์ที่ดี ไม่ใช่ การใช้งานที่ยุ่งยาก และลูกค้าเกิดประสบการณ์ที่ไม่ดี และเลิกใช้ในที่สุด
3. เข้าใจผู้ใช้งาน
ลักษณะการใช้งานที่ UI Designer ออกแบบมาสำหรับลูกค้า จะต้องเป็นลักษณะที่ รู้ได้อย่างง่ายดายว่า จะใช้งานอย่างไร โดยที่ไม่จำเป็นต้องอ่านคู่มือการใช้งานมาก่อน นั่นหมายถึง สิ่งที่มองเห็นและสัมผัสจะต้องง่าย ตรงไปตรงมา แม้แต่คนที่มีประสบการณ์น้อยที่สุด หรือมีความรู้น้อยที่สุด ก็สามารถจะใช้งานได้อย่างแคล่วคล่องง่ายดาย โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใคร
จะต้องเป็นคนที่ โฟกัสในงานที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นภาพของซอฟต์แวร์ หรือสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏต่อสายตาของลูกค้าในหน้าฉากที่จะเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างลูกค้ากับซอฟต์แวร์ โดยมีโครงสร้างทางฝ่ายกิจกรรม ที่ถูกออกแบบไว้อยู่เบื้องหลัง เพื่อให้การใช้งานทั้งหมดนั้น นำไปสู่ความพึงพอใจ ที่รองรับโดยสถาปัตยกรรมที่ถูกกำหนดไว้ตอบสนองประสบการณ์ของลูกค้า ที่ต้องการให้เป็น รับรู้ จดจำ เมื่อเกิดความพึงพอใจในสินค้าที่ออกแบบมา
4. ออกแบบให้สวยงาม เข้าใจง่าย
ต้องออกแบบ Icon หรือ Image ต่างๆ ให้สวยงาม ให้เข้าใจง่าย โดยจะต้องมีองค์ความรู้ทางด้านสี กราฟิกดีไซน์ หรือเป็นส่วนใดๆ ก็ตาม ที่เกี่ยวข้องกับ การทำให้หน้าจอ ที่มองเห็นด้วยสายตานั้น สะดุด สวยงาม เข้าใจได้ ใช้งานง่าย
5. การออกแบบที่สื่อถึงแบรนด์
ต้องเป็นผู้ที่มีแนวคิดในเรื่องของ สไตล์ การสร้างแบรนด์ ซึ่งจะหมายถึง องค์ความรู้ที่ต้องใช้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ฟอนต์ตัวหนา ตัวบาง การเว้นระยะของไอคอนต่างๆ จำนวนของ Item ที่จะต้องมีในการออกแบบ เพื่อให้การออกแบบทั้งหมดในภาพรวม สวยงาม เป็นมิตร ใช้งานง่าย เกิดความจำที่ดีเกี่ยวกับแบรนด์ของสินค้านั้นๆ