ธุรกิจพรีออเดอร์ ก็เหมือนกับการจับเสือด้วยมือเปล่า มันคืออะไร ทำกันยังไง และเราจะได้เสือตัวนั้นได้อย่างไร ก่อนอื่นเลยธุรกิจพรีออเดอร์ คือธุรกิจ ที่เรารับคำสั่งซื้อจากลูกค้าโดยที่เราไม่ต้องสต๊อกสินค้า ซึ่งในปัจจุบันมีอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในกลุ่มของเครื่องสำอางค์ หรือสินค้าแฟชั่นต่าง ๆ
ข้อดี
คือการลดความเสี่ยงในการสต๊อกสินค้ามาเก็บไว้ที่ตัวเองและไม่ต้องนำเงินไปจมกับสิ่งของเหล่านั้น เราแค่มุ่งเน้นการทำการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายเป็นหลัก มีทั้งแบบไม่ต้องยุ่งเรื่องของกระบวนการหลังบ้านได้แก่เรื่องการจัดส่งสินค้า เช็คสต๊อกสินค้า หรือ รวมไปถึงบริการหลังการขาย หรือ แบบยุ่งกระบวนการหลังบ้านเองก็มี ขึ้นอยู่ที่ว่าตอนตกลงกับสินค้านั้นๆว่าเค้าต้องการให้เราทำอย่างไรบ้าง และสำคัญที่สุดคือทำง่ายลงทุนน้อย
ข้อเสีย
พอทำง่ายลงทุนน้อยการแข่งขันก็จะสูงมากขึ้นและยิ่งสินค้าประเภทไหนเป็นที่นิยมการแข่งขันก็ยิ่งสูงตาม การทำการตลาดก็จะยิ่งยากขึ้น และซ้ำไปกว่าบางสินค้าก็ได้ค่าคอมมิชชั่นต่ำต้องเน้นขายปริมาณที่มากหรือถ้าค่าคอมมิชชั่นสูงแสดงว่าสินค้านั้นต้องขายยากหรือมีเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เห็นไหมว่าถึงจะจับเสือแต่ก็ไม่ได้จับได้ง่ายๆ ต้องมีการเสียเหงื่อไล่จับเสือแน่นอน
แล้วการทำธุรกิจประเภทนี้จะอยู่รอดหรือไม่ ตอบเลยว่า อยู่รอดแต่ต้องเป็นสินค้าประเภทไหน เมื่อก่อนสินค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นการสั่งสินค้าจากประเทศจีนมาขายแต่พอมีเรื่องของ FTA เข้ามาบางรายการสินค้าที่นำเข้ามาจากจีนโดยนักธุรกิจจีนไม่ต้องเสียภาษีแต่ถ้าเป็นของคนไทยต้องเสียภาษีก็มีข้อเสียเปรียบแต่สิ่งที่ทำให้ธุรกิจนี้อยู่ได้จริงๆ คือ การผลิตสินค้าเอง หรือ โรงงานบริษัทต่างๆ พัฒนาสินค้าที่ดี และเมื่อผู้ที่ทำธุรกิจพรีออเดอร์ เข้ามาทำการตลาดให้ จะสามารถทำให้สินค้านั้นมีที่ยืนในตลาดและการแข่งขัน พอผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งก็พัฒนาสินค้าใหม่มาทดแทน
แต่ธุรกิจพรีออเดอร์เป็นธุรกิจที่ดีสำหรับมือใหม่วัยรุ่นสร้างตัวที่ยังมีทุนน้อยเน้นการทำการตลาดอย่างเดียวในรูปแบบตามความถนัดของแต่ละคนได้ พร้อมทั้งเรียนรู้สินค้า รู้จักสินค้า และทดลองการทำแผนธุรกิจขนาดเล็กก่อนที่จะเพิ่มการลงทุนในอนาคต หรือ การฝึกทักษะการขาย แล้วไปต่อยอดจากการทำธุรกิจพรีออเดอร์ มาเป็นผู้ผลิตเอง ซึ่งในปัจจุบันก็มีโรงงานพร้อมทำ OEM อยู่เยอะพอสมควรเพื่อทำสินค้าของตัวเองออกสู่ตลาดและการแข่งขันในการพัฒนาสินค้าที่ดีออกสู่ตลาดจนกระทั่งไปถึงมือผู้บริโภค
