fbpx
07ก.พ.

ในปัจจุบันการตลาดถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทุกคนที่กำลังจะทำธุรกิจ หรือทำธุรกิจอยู่แล้วที่ทุกคนจะต้องเรียนรู้แต่อีกหนึ่งหัวข้อที่สำคัญมากในการเรียนรู้เริ่มเพิ่มเติมคือ กลยุทธ์การตลาด ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็ใช้ซ้ำๆกันแต่สังเกตไหมว่าบางธุรกิจก็สำเร็จ บางธุรกิจก็ไม่สำเร็จ บางครั้งกลยุทธ์การตลาดเหล่านี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับเวลาที่ใช้มันวันนี้เราจะมานำเสนอ กลยุทธ์การตลาดยอดนิยมว่าปกติเค้าใช้อะไรบ้าง

1.กลยุทธ์การตลาดแบบ offline ทุกคนเชื่อไหมว่าตลอดหลายปีที่ผ่านทุกคนมุ่งหน้าทำการตลาดออนไลน์เป็นหลักทุ่มงบประมาณส่วนใหญ่ไปกับการทำการตลาดออนไลน์จนลืมไปว่าการมีหน้าร้านก็สำคัญสังเกตไหมว่าในกรุงเทพมหานคร ทำไมป้ายโฆษณาบนทางด่วน หรือแม้กระทั่งตามรถไฟฟ้า ราคาหลักล้านยังมีคนซื้อเพราะว่ามันมีความสำเร็จในการคนรับรู้ถึงแบรนด์อยู่ หรือ แม้กระทั่งถ้าเป็นร้านอาหาร บางคนบอกว่าเราไม่ต้องมีหน้าร้านรอให้ไรเดอร์มารับสินค้าเอาแล้วประหยัดต้นทุน สิ่งที่กล่าวมาก็ถูก แต่คุณอย่าลืมว่าถ้าวันหนึ่งแอฟ เพิ่มค่าบริการผ่านการทำโฆษณาร้านค้า หรือ ถ้าแอฟปิดบริการคุณก็ต้องเจอปัญหาอย่างแน่นอน โดยสรุปที่ผมจะแนะนำคือในช่วงแรกคุณสามารถเปิดร้านหรือให้บริการแบบไม่มีหน้าร้านไปก่อนได้พอคุณเริ่มมีทุนคุณค่อยขยายไปทำหน้าร้าน ให้ธุรกิจของคุณได้มีทางเลือก หรือ ให้ธุรกิจของคุณต้องมีทางออกอย่างน้อยกว่า 1 ทางเสมอ

2. กลยุทธ์การตลาดแบบ Micro การแข่งขันของตลาดทุกวันนี้ ผู้บริโภคมีทางเลือกหลากหลายอีกทั้งยังเจอปัญหาธุรกิจที่ลอกเลียนแบบกันสูงมาก หรือแม้กระทั่งการทำการตลาดแบบลอกเลียนแบบก็สูงไม่แพ้กัน ดังนั้นหลายๆธุรกิจก็ต้องเอาตัวรอด กันสูงมาก และอีกกลยุทธ์การตลาดแบบ Micro   ก็จะมาตอบโจทย์ในเรื่องอะไร เมื่อก่อนการทำสินค้าสามารถทำไม่กี่แบบก็ตอบโจทย์แล้ว แต่ทุกวันนี้สินค้ามีการทำเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจสินเชื่อทางการเงิน มีหลายแบบมาก ทั้งบัตรเครดิต เงินสดส่วนบุคคล SME  เงินกู้เพื่อการลงทุนให้เหมาะกับลูกค้าเค้าหรือแม้กระทั่งการลงทุนในกองทุนต่างๆ ซึ่งมีความหลากหลายมากประเมินความเสี่ยงได้เอง แต่สิ่งควรระวังกลยุทธ์การตลาดแบบนี้คือ คุณไม่สามารถเก็บลูกค้าทุกกลุ่มได้ ไม่งั้น ธุรกิจของคุณจะเสียตัวตนของธุรกิจของคุณ

นอกจากความสำเร็จที่มาจากยอดขายแบบปังๆและกลยุทธ์การตลาดต่างๆแล้ว แล้วยังมีอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญที่หลายคนมองข้ามคือ ความสำเร็จการบริการหลังบ้าน แล้ว การบริการหลังบ้านคืออะไร ต้องทำแบบไหนมีความสำคัญอย่างไร และต้องจัดการอย่างไร บริหารอย่างไร

3. ระบบจัดการออเดอร์สินค้า ในปัจจุบันมีทั้งออนไลน์และออฟไลน์ขึ้นอยู่กับ งบประมาณการจัดทำ แล้วมาช่วยในเรื่องอะไร แน่นอนเวลามีออเดอร์จำนวนมากก็ต้องมีการลำดับคิว มีการจัดกลุ่มว่าประเภทไหน จัดส่งแบบไหน จัดทำแบบไหน ในการทำธุรกิจเรียกว่าต้องทำเป็นอีกหนึ่งแผนกได้เลย รวมไปถึงการสต๊อกสินค้า เพื่อควบคุมเรื่องต้นทุนก็ได้ว่าแบบนี้ต้องผลิตเท่า สั่งวัตถุดิบมารองรับอย่างไร            

4. customer relationship management หรือที่เราเรียกกันย่อ ว่า CRM ที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยทำให้เกิดการซื้อซ้ำ และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างของการทำงานระบบนี้ เช่น เมื่อมีลูกค้าต้องการขอความช่วยเหลือกับการบริการนั้นๆ หรือสินค้านั้นๆ มีการจัดส่งแตกหัก หรือสินค้ามีปัญหา CRM จะกลายเป็นด่านแรกที่คอยดูแลความสัมพันธ์ กับลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ คอยอธิบายและทำความเข้าใจให้กับลูกค้า CRM มีทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เชิงรุก คือการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าผ่านข้อมูลเพื่อทำให้เกิดการส่งเสริมการขาย เชิงรับคือการคอยให้คำแนะนำแค่ไขปัญหาให้กับลูกค้าทันทีหากมีความผิดพลาด