fbpx
05ก.ย.

            เชื่อหรือไม่ว่าคนส่วนใหญ่มากกว่า 99% ทุกคน ล้วนบอกว่าตัวเองอยากรวย และก็เชื่อว่าเป็นความฝันของใครหลายๆคน แต่เชื่ออีกหรือไม่ว่า มีเพียงไม่ถึง 10% ที่เรียกว่ารวยมีธุรกิจใหญ่โต และ อีก 30% ก็เป็นกลุ่มคนรายได้ปานกลาง ที่พอมีรถคันแรก มีบ้านหลังแรกสัก 1 หลัง หรือประสบความสำเร็จอื่น แล้วเคยสงสัยไหมว่า ถ้าเราจะต้องรวยด้วยวิธีการขยันแล้วเราจะต้องขยันแบบไหน ถึงจะรวย

            คนจนเป็นนักทำ คนรวยเป็นนักคิด คนจนเป็นนักทำหมายความว่า การทำงานที่ทุ่มเท ขยันงานเสร็จตรงตามเวลาตลอด แต่งานไม่เคยพัฒนา ไม่เคยสร้างความท้าทายใหม่ๆ ใช้แรงงานเพียงอย่างเดียว ต่างกับ คนรวยเป็นนักคิด คนกลุ่มนี้มักจะพัฒนางานตัวเองอยู่เสมอว่าจะต่อยอดการทำงานของเราได้อย่างไร เช่นการเปิดร้านอาหาร เราก็มีรายได้จากการขายอาหาร บางคนตั้งกล้องเพิ่มถ่ายวิดีโอตอนทำอาหารสอนทำอาหาร ถ้าโชคดีมีสปอนเซอร์เข้ามาอีกก็เป็นไปได้ เห็นไหมว่าการต่อยอดงานไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปเพียงแค่เราทำในสิ่งที่เราทำอยู่ แล้วหาโอกาสขยายเพิ่มไปเรื่อยๆ คุณก็จะเป็นคนรวยที่เป็นนักคิดได้

            คนจนแลกเวลามากกับเงินน้อย คนรวยแลกเวลาน้อยกับเงินมาก เคยได้ยินเรื่องลูกกอล์ฟ 20 บาทไหม เวลาคุณตีกอล์ฟ แข่งกับเพื่อน โดยที่คุณแข่งกันใครชนะ ได้ 20 บาท เวลาคุณตีกอล์ฟคุณจะตีแบบไหน (ลองคิดตามกันดู) คุณก็จะตีแบบกล้าได้กล้าเสียโดยไม่สนอะไร เพราะลูกกอล์ฟ ลูกนั้นมันก็แค่ 20 บาท แต่ในทางกลับกัน ถ้าลูกกอล์ฟ ลูกนั้นมูลค่า 2000 หรือ 20,000 ละคุณจะตีคุณจะเล่นแบบไหน เชื่อว่าคุณจะต้องซ้อมมาก่อนเล่นแน่นอนจากเมื่อก่อนลูกกอล์ฟ 20 บาท คุณแทบจะไม่ได้ซ้อมเลยฉันใดฉันนั้น การที่เราทำงานขยันขันแข็งโดยใช้เวลามากมายทำกับสิ่งเดิมๆ ให้เวลามากๆ แต่มันไม่ได้สร้างมูลค่าอะไรเลย มันก็เหมือนกับลูกกอล์ฟ 20 บาทไม่ว่าเราจะทำยังไงใส่ใจขนาดไหนมันก็คือ 20 บาท เราลองมองมุมกลับ เราพัฒนางานสร้างความท้าทายใหม่ๆ ใช้เวลาไม่ต้องมากแต่ต้องฝึกซ้อมและตีให้แม่นยำ คิดวิธีซ้อมใหม่ๆ มันก็จะทำให้คุณสามารถตีลูกกอล์ฟ มูลค่า 20,000 ได้อย่างมั่นใจ

            เห็นไหมว่าขยันแบบจน กับ ขยันแบบรวยต่างกันอย่างไร แค่แนวความคิดก็แตกต่างกันมากแล้ว และอยากให้เรามุ่งเน้นในงานของเรา พัฒนางานของตนเองอยู่สม่ำเสมอ อย่าเพิ่งท้อแท้ตั้งแต่เริ่มคุณต้องคิดแบบคนรวยคุณถึงจะประสบความสำเร็จแบบคนรวย