เจอองค์กรแบบนี้ให้หนีไป เช็คลิสต์องค์กรแบบไหนที่ “ไม่น่าร่วมงานด้วย”
เราจะเห็นว่าน้องๆ ที่เพิ่งจบใหม่หลายคน พอเรียนจบแล้วก็ไฟแรง หว่านใบสมัครเป็น 10 ที่ 20 ที่ อยากได้งานเร็วๆ จนลืม ไปว่างานที่แรกมันคือบันไดก้าวแรกที่สำคัญในชีวิต ถ้าเราได้งานแรกที่มีประสิทธิภาพ บริษัทพร้อมที่จะสนับสนุนให้เรา เติบโต ได้โชว์ศักยภาพของเราอย่างเต็มที่ เราก็จะมีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพการงาน เติบโตไปในตำแหน่งที่สูงขึ้นได้ เพราะฉะนั้น ถ้าสิ่งที่เรากำลังมองหาคืออนาคตการทำงานที่ก้าวหน้าและมั่นคง เราจะต้องรู้ก่อนว่า องค์กรแบบไหนที่เรา ควรหลีกเลี่ยง และควรคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเข้าไปทำงาน
1. บริษัทที่มีคนลาออกบ่อยๆ
ให้ลองสังเกตว่า หากบริษัทมีการลงประกาศรับสมัครงานตำแหน่งสำคัญๆ ตามเว็บไซต์บ่อยๆ หรือถ้าเราลองเข้าไปทำงาน แล้วมีคนพูดบ่อยๆ ว่า อยากจะลาออก ทั้งพูดเล่นพูดจริง แบบนี้ก็เริ่มเป็นสัญญาณที่ไม่ดีแล้วนะ ซึ่งโดยปกติบริษัทที่ดีไม่ควรมีการเปิดรับสมัครตำแหน่งผู้จัดการ หรือผู้บริหารระดับสูงในทุกๆ 6 เดือน นั่นแสดงว่าบริษัทอาจจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เช่น อาจจะเจอปัญหาผู้บริหารไม่มีความเป็นผู้นำ หรือเป็นที่วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่สามารถรักษาคนเก่งๆ เอาไว้ได้ เพราะฉะนั้น บริษัทที่มีคนลาออกบ่อยๆ เป็นเรื่องที่เราจะต้องพิจารณาให้ดี
2. วัฒนธรรมองค์กรและชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีนัก
ถ้าหากว่าบริษัทไหนงานดี เงินดี แต่วัฒนธรรม Toxic มันก็จะส่งผลต่อความสุขในการทำงาน และในระยะยาวประสิทธิภาพการทำงานมันก็จะแย่ลงไปด้วยนะคะ เพราะฉะนั้น ก่อนที่เราจะเลือกสมัครงานที่ไหน ให้ลองสำรวจชื่อเสียงขององค์กรนั้นๆ จากในเว็บไซต์ หรือ Social media ต่างๆ ดูก่อน อาจจะเข้าไปดูคอมเม้นต์ โพสต์ หรือการตอบคำถามของบริษัท ถ้ามีคนพูดถึงบริษัทในแง่ลบบ่อยๆ ก็อาจจะเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีแล้ว หรือแม้กระทั่งวันที่เราเข้าไปสัมภาษณ์ ให้ลองสังเกตพฤติกรรม คำพูด น้ำเสียง หรือการปฏิบัติตัวของคนในองค์กรที่มีต่อกัน ถ้าเราเริ่มรู้สึกแปลกๆ เห็นคนมานั่งนินทากัน เห็นคนทะเลาะกัน เห็นบรรยากาศการทำงาน แล้วมันไม่ค่อยดี เราก็อาจจะต้องกลับมาทบทวนอีกทีว่าเราควรเลือกทำงานที่นี่หรือเปล่า
3. บริษัทที่ไม่สนับสนุนให้พนักงานเติบโต หรือพัฒนาตัวเอง
ข้อนี้สำคัญนะ ก่อนที่เราจะตัดสินใจเซ็นสัญญากับองค์กรไหน เราควรศึกษาและสอบถามให้แน่ชัดถึงภาพรวมการทำงาน และโอกาสที่เราจะได้ก้าวหน้าไปในตำแหน่งงานที่สูงขึ้น สิ่งที่เราต้องถามเลยก็คือ ลักษณะงานที่ต้องทำ แผนงานและเป้าหมายของบริษัทในอนาคต โอกาสในการเติบโตของตำแหน่งที่เราจะเข้าไปทำ เพราะคงไม่มีใครที่อยากเข้าไปทำงานแล้วอยู่ตำแหน่งเดิมตลอดไป ไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม ไม่มีการประเมินผลงานเพื่อให้เราอัพ Level ได้สูงขึ้น บริษัทแบบนี้เขาก็จะเปรียบเทียบว่าเป็นบริษัทบอนไซ ก็คือต้นไม้ที่ถูกตัดและเลี้ยงไว้ไม่ให้โตนั่นเอง
4. บริษัทที่เล่นไม่ซื่อ
หมายความว่า เรากำลังเจอกับบริษัทที่ไม่มีความชัดเจนอะไรซักอย่าง เช่น ไม่มีการเขียนอะไรเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ชัดเจน ไปจนถึงทิศทางการดำเนินงาน หรือเป้าหมายของบริษัท สิ่งที่เราจะเจอกันบ่อยๆ คือ สัญญาปากเปล่า สัญญาว่าจะเพิ่มเงินเดือนถ้าหากว่าผ่าน Probation หรือการการันตีโบนัสช่วงสิ้นปี แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้อะไรซักอย่าง ขายฝันไว้ก่อน หากใครเจอบริษัทแบบนี้ ให้เราสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานและผลประโยชน์ที่เราจะได้รับให้ชัดเจน หากเห็นว่าบริษัทพยายามปกปิดข้อมูลหรือปัญหาบางอย่าง ก็ให้เราถอยออกมาเพราะความไม่ชัดเจนนี่แหละ ที่จะส่งผลเสียต่อการทำงานของเราในอนาคต
น้องๆ คนไหนที่กำลังหว่านใบสมัคร ลองไปเช็คกันดูนะ ว่าบริษัทที่โทรมาเรียกเราไปสัมภาษณ์มี 4 ข้อข้างบนนี้หรือเปล่า แต่จริงๆ แล้ว 4 ข้อนี้ก็เป็นแค่แนวทางในการพิจารณาเบื้องต้นก่อนการตัดสินใจนะ การที่เราจะทำงานในองค์นั้นๆ ได้หรือไม่ มันยังมีปัจจัยอีกหลายอย่าง เพราะฉะนั้น คิดให้รอบคอบและมองอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจ
