AI กับงาน HR ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือ ผู้ช่วยคิด ที่เปลี่ยนเกมคนทำงานยุคใหม่

AI กับงาน HR ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือ ผู้ช่วยคิด ที่เปลี่ยนเกมคนทำงานยุคใหม่

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกมิติของการทำงาน การนำ “AI” มาใช้ในสายงาน HR ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่เป็นแนวทางที่องค์กรจำนวนมากกำลังนำมาใช้จริง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการสรรหาพนักงาน การพัฒนาเทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพในงานHR การประเมินผล ไปจนถึงการเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน ที่สำคัญคือ… AI ไม่ได้ถูกนำมาเพื่อทดแทนบทบาทของฝ่ายทรัพยากรบุคคล แต่กลับกลายเป็น “ผู้ช่วยคิด” ที่ช่วยให้ทีม HR ทำงานได้ลึกขึ้น รอบด้าน และมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น

จากระบบอัตโนมัติ สู่การเป็น คู่คิด ของทีม HR

การนำ AI เข้ามาใช้ในงาน HR ช่วยสร้างคุณค่าให้กับองค์กรได้ในหลายด้าน ดังนี้ 👇

1.ความแม่นยำในการตัดสินใจ

AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เช่น การคัดเลือกพนักงาน การประเมินผล หรือการวางแผนบุคลากร มีหลักฐานรองรับและแม่นยำมากกว่าการพึ่งพาประสบการณ์ที่ผ่านมาของ HR

2.ลดเวลาในการทำงานซับซ้อน

งานที่ใช้เวลานานและมีลักษณะซ้ำซาก เช่น การกรองข้อมูล คัดกรองเรซูเม่ หรือตอบคำถามพนักงาน สามารถถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้ HR มีเวลามากขึ้น ในการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือการวางแผน

3.ประหยัดต้นทุนระยะยาว

เมื่อสามารถลดภาระงานซ้ำซ้อนและบริหารคนได้อย่างแม่นยำ องค์กรจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และยังช่วยลดอัตราการลาออกของพนักงาน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อค่าใช้จ่ายในการหาคนใหม่และการฝึกอบรม

4.สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้สมัครและพนักงาน

AI ช่วยให้ผู้สมัครงานได้รับการตอบกลับอย่างรวดเร็ว มีขั้นตอนการสมัครที่ไม่ซับซ้อน ขณะเดียวกัน พนักงานในองค์กรก็ได้รับการดูแลและพัฒนาอย่างตรงจุด ส่งเสริมความผูกพันและความพึงพอใจในงาน

5.เพิ่มศักยภาพเชิงกลยุทธ์ให้กับ HR

เมื่อ HR ไม่ต้องเสียเวลาไปกับงานรูทีน ก็สามารถหันมาทำงานเชิงกลยุทธ์ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโครงสร้างองค์กร การบริหารความสามารถ หรือการวางแผนระยะยาวเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ 

ในช่วงแรกที่องค์กรเริ่มนำ AI มาใช้ในงาน HR มักเน้นไปที่การลดงานที่ทำซ้ำ เช่น การคัดกรองเรซูเม่ หรือการตอบคำถามทั่วไปของพนักงานผ่านระบบแชตบอต แต่เมื่อเทคโนโลยีมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง บทบาทของ AI ก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่เน้น “ช่วยทำ” กลายเป็น “ช่วยคิด” ในลักษณะที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แนวทางเหล่านี้ช่วยให้ HR สามารถยกระดับบทบาทจากการจัดการงานเอกสาร ไปสู่การวางกลยุทธ์และตัดสินใจอย่างมีข้อมูลรองรับ

👉การนำ AI มาช่วยในการทำงานจริงในฝ่ายงาน HR

1.การสรรหาบุคลากร (Recruitment)

AI จะช่วยคัดกรองเรซูเม่ โดยใช้ระบบ Natural Language Processing (NPL) วิเคราะห์ความสามารถจากข้อมูลใน CV และจับคู่ความต้องการของตำแหน่งงาน หรือจะเป็นการใช้ Chatbot สัมภาษณ์เบื้องต้น ช่วยพูดคุยกับผู้สมัคร ประเมินความเหมาะสมในขั้นต้นก่อนเข้าสู่รอบสัมภาษณ์จริง และยังคาดการณ์ความสำเร็จในตำแหน่งงาน โดยการอ้างอิงจากข้อมูลผู้สมัครและข้อมูลพนักงานที่เคยประสบความสำเร็จในตำแหน่งนั้นมาก่อนได้

2.การวิเคราะห์ข้อมูลพนักงาน (People Analytics)

AI วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากแหล่งต่างๆ เช่น การทำแบบประเมินผลงาน การใช้เวลาในระบบ การลางาน ฯลฯ เพื่อตรวจจับสัญญาณของพนักงานที่มีแนวโน้มลาออก และยังช่วยระบุความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆ เช่น ความพึงพอใจในงานกับประสิทธิภาพในการทำงาน

3.การพัฒนาบุคลากร (Leaning & Development)

AI จะแนะนำหลักสูตรหรือเส้นทางการเรียนรู้เฉพาะบุคคลให้กับพนักงานแต่ละคน โดยอ้างอิงจากข้อมูลทักษะในปัจจุบันและตำแหน่งเป้าหมายในอนาคต และยังวิเคราะห์ว่าใครมีศักยภาพจะเป็นผู้นำในอนาคต และใครควรได้รับการพัฒนาในด้านใด

4.การบริหารค่าตอบแทน (Compensation)

ใช้ AI ช่วยเปรียบเทียบค่าตอบแทนกับตลาดแรงงานแบบเรียลไทม์ และช่วยตัดสินใจเรื่องการปรับเงินเดือนหรือโบนัสอย่างเป็นธรรมและมีหลักฐานเชิงข้อมูลรองรับ

5.การบริหารความผูกพันระหว่างพนักงานกับองค์กร (Employee Engagement)

AI วิเคราะห์ความรู้สึกของพนักงานจากคำตอบในแบบสอบถาม หรือแม้แต่ข้อความในแชท อีเมลภายใน เพื่อหาสัญญาณของความพึงพอใจ/ไม่พึงพอใจ และยังสามารถตั้งระบบแจ้งเตือนถึง HR ล่วงหน้าหากพบความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาการลาออกหรือความขัดแย้งในทีม

👉HR ยังจำเป็นอยู่ไหม? เมื่อต้องทำงานร่วมกับ AI

คำตอบคือ “จำเป็นมากกว่าเดิม” แม้ว่า AI จะสามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว แต่สิ่งที่ AI ยังไม่สามารถทดแทนได้คือ “ความเข้าใจในมนุษย์” ที่ลึกซึ้ง เช่น ความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจในวัฒนธรรม หรือการแปลความหมายจากบริบทที่ซับซ้อน

            ตัวอย่างเช่น

1.การตีความของถ้อยคำที่ดูเป็นลบในแบบสอบถามว่าอาจจะสะท้อนสไตล์การสื่อสาร ไม่ใช่ความไม่พอใจ

2.การอ่านความหมายของ “ความเงียบ” จากพนักงานว่าเป็นความพึงพอใจหรือความเบื่อหน่าย

HR ยุคใหม่จึงควรปรับบทบาทจากผู้ดำเนินการตามระบบ ไปสู่ “นักกลยุทธ์ด้านบุคลากร”ที่ใช้AI เป็นเครื่องมือในการคิด วิเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมีมนุษยธรรม

👉แนวทางเริ่มต้นการใช้ AI กับงาน HR

สำหรับองค์กรที่ต้องการเริ่มนำ AI มาใช้ในงาน HR สามารถเริ่มต้นได้ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

1.เริ่มจากงานที่ทำซ้ำบ่อย

เช่น การคัดกรองเรซูเม่ การตอบคำถาม HR ผ่านแชทบอต หรือการนัดสัมภาษณ์อัตโนมัติ

2.เลือกเครื่องมือให้เหมาะกับขนาดองค์กร

เช่น Zoho Recruit, HR Recruiting Software หรือระบบ HR Tech ที่พัฒนาภายในประเทศ

3.เสริมความรู้ด้านข้อมูลให้กับทีม HR

แม้ไม่จำเป็นต้องมีทักษะเชิงเทคนิค แต่ควรเข้าใจข้อมูล และสามารถสื่อสารกับทีม IT หรือ Data ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.ทดลองใช้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจาก AI จะเรียนรู้และพัฒนาจากข้อมูล ยิ่งใช้ ยิ่งฉลาด และยิ่งมีประโยชน์ต่อองค์กร

👉ประเด็นด้านจริยธรรมที่ควรคำนึงถึง

การใช้งาน AI อย่างมีประสิทธิภาพ ควรมาพร้อมกับความรับผิดชอบ โดยเฉพาะในประเด็นจริยธรรม เช่น

1.ความลำเอียงของข้อมูล (Bias) หากข้อมูลมีอคติ AI ก็จะสะท้อนอคตินั้นออกมา

2.ความโปร่งใสในการตัดสินใจ ผู้สมัครควรได้รับ Feedback หากมีการใช้ AI เข้ามาประเมิน

3.การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ต้องมีการจัดการข้อมูลพนักงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

HR ที่เก่งในยุคนี้ ไม่ใช่ HR ที่ “รู้ทุกอย่าง” แต่คือ HR ที่ “ใช้เครื่องมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ”  เพราะแม้ AI จะเป็นสมองที่ประมวลผลข้อมูลได้รวดเร็ว แต่ คน ยังเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพ

👉HR ยุคใหม่ต้องปรับตัวอย่างไร

ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็ว คนทำงาน HR ควรเรียนรู้และพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆ เพื่อทำงานร่วมกับ AI อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

1.เปิดใจเรียนรู้เทคโนโลยี ไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเป็น แต่ควรรู้ว่า AI ทำอะไรได้บ้าง มีข้อจำกัดตรงไหน และจะใช้ยังไงให้เกิดประโยชน์

2.เน้น Data-Driven HR ฝึกใช้ข้อมูลเป็นเครื่องมือในการวางแผนและตัดสินใจ ไม่ใช่พึ่งพาแค่ความรู้สึกหรือประสบการณ์ส่วนตัว

3.ร่วมมือกับทีมไอทีหรือ Data Analyst ในการวิเคราะห์ข้อมูล และร่วมกันพัฒนาเครื่องมือที่ตอบโจทย์ HR โดยเฉพาะ

4.ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ เมื่อระบบช่วยลดงานประจำ HR ควรใช้เวลาไปกับการออกแบบประสบการณ์พนักงาน การพัฒนาองค์กร และการขับเคลื่อนวัฒนธรรมเชิงบวก

มอง AI เป็นผู้ช่วย ไม่ใช่ศัตรู และรู้ว่าเมื่อไหร่ควรใช้เทคโนโลยี และ เวลาไหนควรใช้หัวใจมนุษย์

AI กับงาน HR ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยลดเวลาการทำงานเท่านั้น แต่เป็นตัวเร่งให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลก้าวสู่การเป็น นักกลยุทธ์ด้านคน ที่เข้าใจทั้งข้อมูลและพฤติกรรมมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง

หากคุณกำลังวางแผนปรับบทบาท HR ให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจในปัจจุบัน ลองเริ่มต้นจากคำถามง่าย ๆ  “เราจะใช้ AI เพื่อเข้าใจและดูแลคนในองค์กรได้ดีขึ้นอย่างไร?” แล้วคุณจะค้นพบว่า AI กับงาน HR นั้นช่วยให้คุณมีเวลาและมีพลังมากขึ้นในการทำงานให้มีคุณค่าและคุณภาพกว่าเดิม